รีวิว A350 – 900 การบินไทย Business ( Royal Silk class )
A350 จากภูเก็ต
ความเดิมจากที่ รีวิว A350 ชั้น ประหยัด economy ไฟล์ทแรกของไทยไปแล้วเมื่อวันที่ 4 กย (ซึ่งเป็นไฟล์ทกลางคืน สีสัน LED สวยงาม) และประกอบด้วยรายละเอียดคร่าวๆของเครื่องบิน A350 XWB (Extra wide Body ) ซึ่งเป็นไฟล์ทแรกที่ออกจากภูเก็ตของเครื่องบินลำนี้ คราวนี้ผมมีธุระต้องมาเชียงใหม่พอดีครับ ไม่รอช้ารีบรีวิวให้ดูกันเลย

Royal Orchid Lounge
สำหรับใครที่มีโอกาสเข้า lounge ตอนเช้าๆ โจ๊กไก่, ปาท่องโก๋ และซาลาเปาอร่อยมากครับ เนื่องจากมีคนรีวิวเยอะแล้ว ผมไม่ขอรีวิวต่อนะฮะ ว่าแต่ lounge ค่อนข้างแออัดเหมือนกัน ต้องจองที่นั่งกันหน่อยครับ


A350 -900 วิเชียรบุรี
เดินมาเกท A6 ก็พบกับ A350-900 คุณวิเชียรบุรีจอดเด่นเป็นสง่า
สำหรับการบริการก็ถือว่าเหนือกว่าชั้น economy อยู่แล้วเพราะพนักงานคนหนึ่งบริการคนน้อยคนกว่า อันนี้ผมแสดงตัวว่าอยากมารีวิวครับ คุณแอร์ก็ถ่ายรูปให้เยอะมาก (แต่สั่นเกือบหมด ใช้ได้รูปเดียวคือรูปที่คุณแม่หลับตา 555) นับถือในความตั้งใจครับ
เข้ามาก็พบกับบรรยากาศที่เชิญชวนให้นั่งเป็นที่สุดครับ ที่นั่ง business รุ่นใหม่จัดเป็นแบบหันตรงแต่สับหว่างกันเพื่อให้ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าที่สุดในขณะที่ยังคงความเป็นส่วนตัวไว้ได้ ทุกที่นั่งสามารถลุกไปห้องน้ำได้อย่างอิสระไม่ต้องผ่านใคร การจัดที่นั่งชั้น business เท่าที่ดูมาในขณะนี้ยังไม่มีสายการบินไหนที่ใช้ A350 จัดที่นั่งเหมือนการบินไทยเลยครับ
– Qatar และ finair จัดแบบที่นั่งเฉียง
– Vietnam Airline จัดที่นั่งหันตรงสับหว่าง แต่ทุกที่นั่งมีโต๊ะคั่นหมด ไม่มีที่ๆติดกัน
– Singapore Airline โละที่นั่ง first class แล้วยกระดับ business ให้หรูขึ้นมาแทน เลยเหมือนเป็นคลาสใหม่หรูกว่าและแพงกว่าคนอื่นครับ

ที่นั่งของผมครับ หมายเลข 17K ริมหน้าต่าง บังเอิญผมเช็คอินล่วงหน้า (การบินไทยเปิดให้เช็คอินและเลือกที่นั่งได้ 24 ชม.ก่อนบิน) ตอนเช็คพบว่าถ้าจะนั่งใกล้คุณแม่ ในขณะที่ยังอยากนั่งริมหน้าต่าง มันเหลือเพียงที่เดียวเท่านั้นคือตรงนี้
ส่วนที่นั่งนี้เป็นที่นั่งถัดจากผมครับ ที่นั่งนี้จะมีโต๊ะแทรกระหว่างหน้าต่างกับตัวที่นั่ง ทำให้ที่นั่งของผมเหมาะกับคนชอบนั่งริมหน้าต่างมากกว่า
หันกลับมาดูที่นั่งแบบชัดๆครับ จะเห็นว่าที่นั่งใหญ่ และเข็มขัดต้องออกมาจากภายในที่นั่ง (ไม่ได้ออกมาจากขอบที่นั่ง) เข็มขัดอารมณ์เหมือนเข็มขัดรถยนต์ครับคือพาดผ่านบ่าด้วย สามารถคาดตอนนอนราบได้เพื่อไม่ให้ตัวลอยตอนตกหลุมอากาศแบบรุนแรง
ที่นั่งถัดไปเข็มขัดจะออกมาคนละด้านกันแฮะ

ที่นั่งที่คู่ที่นั่งได้ชิดกันที่สุดครับ มีที่นั่งกลางไม่กี่ที่นั่งที่ได้นั่งติดกันอย่างนี้ (ประมาณแปดที่) ส่วนใหญ่จะมีโต๊ะคั่นเพื่อความเป็นส่วนตัวทั้งสิ้น
มุมมองของเก้าอี้ริมหน้าต่างที่มีโต๊ะริมหน้าต่าง
เก๊กท่านั่งสักหน่อย

แผงควบคุมที่นั่งครับ พอจับดูพบว่าให้ความรู้สึกเย็นมือเพราะเป็นอลูมิเนียมจริง เรียงจากด้านซ้ายเป็นปุ่มให้ความสว่างแบบ backlight บนโต๊ะ , ไฟอ่านหนังสือที่ส่องจากด้านหลัง , ระบบนวด , ปุ่ม shotcut สำหรับปรับราบ 180 องศา ถ้ากดนานๆหน่อยมันจะราบลงไปนอนเลยด้วยปุ่มเดียว สะดวกดีครับ, ปุ่มปรับเอนมาตรฐาน, ปุ่มกลับสู่ตำแหน่งมาตรฐานสำหรับการนำเครื่องขี้นและลง, ปุ่มปรับตำแหน่งการหนุนหลังดุนหลังสองปุ่ม, ปุ่มเอนพนักเก้าอี้แบบปรับละเอียด, ปุ่มเลื่อนหน้าหลัง
สำหรับคนขายาวอย่างผม (สูงเกือบ 185 ซม) ยังไม่สามารถวางขาได้ถึงที่พักเท้าครับ ต้องปรับเอนแล้วเก้าอี้จะเลื่อนไปด้านหน้าให้เท้าวางบนที่พักเท้าที่เอียงรับกับเท้าพอดี ให้ความรู้สึกสบาย
มุมมองด้านหน้า จอ LEC infotainment ขนาดใหญ่ 23 นิ้ว ถ้าปรับที่นั่งเป็นแบบเอน จะเอื้อมไม่ถึงจอเลยครับ ต้องใช้รีโมท
ตำแหน่งที่นั่งสำหรับเครื่องขึ้นลงมองไปด้านข้างเป็นดังรูป ถ้าพิงพนักก็ให้ความเป็นส่วนตัวใช้ได้
พนักงานต้อนรับ นำผ้าเย็น และมีให้เลือกเครื่องดื่ม welcome drink ผมเลือกเป็นชามะนาวครับ ปรากฏหวานไปหน่อย ดื่มไม่ได้เยอะ
มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นเครื่องยนต์ RollRoyce Trend รุ่นใหม่ มีความแตกต่างตรงรูปทรงใบพัด และพื้นผิวด้านข้างของปากเครือ่งยนต์ดูมีรูๆ ไม่เรียบเหมือนเครื่องยนต์ตัวเก่าๆครับ แน่นอนว่าเสียงเครื่องยนต์ค่อนข้างเงียบ ตามสไตล์เครื่องบินสมัยใหม่
รีโมทคอนโทรล ติดตั้งอยู่ด้านข้างเก้าอี้ มีจอที่จำลองจอหลักด้านหน้าด้วย กดปุ่มด้านข้างเพื่อเอารีโมทออกมา
เมื่อกดปุ่มเอาออกมาถือพบว่าอันใหญ่พอสมควรครับ ลักษณะคล้ายจอยเกม ดังรูป
เมื่อเอนเบาะแล้วจะเอื้อมไปสัมผัสจอด้านหน้าไม่ได้ เลยต้องใช้รีโมทแทนดังรูปครับ
มองเฉียงไปด้านหน้า ผดส. ส่วนใหญ่จะหัวไม่พ้นคอกกั้นเก้าอี้ มีแต่ผู้ชายที่หัวสูงจริงๆถึงจะพ้นออกมาครับ
ด้านข้างใต้ที่ท้าวแขนจะมีช่องใส่ของกระจุกกระจิก พวกกระเป๋าถือครับ
มองเฉียงไปด้านหลังจะพบกับไฟอ่านหนังสือปรับระดับได้
เมื่อปรับเบาะเอนเยอะๆ ตัวเบาะจะเลื่อนไปด้านหน้าจะบรรจบกับที่พักเท้าระดับที่สูงขึ้นมาครับ เหมือนนั่งราบ/นอนราบเลย ช่องพักเท้าแม้จะดูเล็กและก็สามารถที่ขยับขาทั้งด้านซ้ายและขวาเปลี่ยนอิริยาบทได้ดังรูปครับ
เบี่ยงเข่าด้านซ้ายบ้าง โอเค สบาย

ปรับเอนนอนแล้วเป็นอย่างนี้นะ เนื่องจากเวลาบินเครื่องบินมันจะเชิดหัวหน่อยๆ ทำให้รู้สึกว่ามันเอนได้มากกว่า 180 องศาอีกแฮะ ดูเหมือนหัวจะลงต่ำกว่าตัวเลยต้องปรับขึ้นมานิดนึงหนุนหมอนแล้วจะสบายดีครับ

มีช่อง USB ให้ถึงสองข่อง นอกจากใช้ชาร์จไฟได้แล้ว ยังใช้เล่นไฟล์ข้อมูลภาพและเสียงได้เช่นเดียวกับที่รีวิวในชั้นประหยัดครับ (ชั้นประหยัดมี 1 ช่อง)

มุมมองเมื่อเอนเบาะ จะพบว่าเราแทบมองไม่เห็น ผดส. คนอื่น ให้ความเป็นส่วนตัวได้มากจริงๆครับ
ในโหมดกล้องภายนอกตัวเครื่อง พบว่าให้ภาพชัดกว่าเครื่องรุ่นก่อนๆที่ผมเคยนั่งมากครับ ยิ่งจอของชั้น business class ยิ่งใหญ่เต็มตามาก ผดส. ที่ไม่ได้นั่งริมหน้าต่างก็ยังเพลิดเพลินกับวิวภายนอกได้อย่างไม่เบื่อครับ
บริเวณผนังกั้นด้านหน้า มีที่สำหรับแขวนเสื้อสูทครับ
ไฟอ่านหนังสือยามกดเปิดไฟจากแผงควบคุมด้านข้าง
แต่ไฟส่องสว่างบนหลังคาต้องกดที่รีโมทแทนนะครับ กดทีสว่างสองดวงเลย

USB ชาร์จ iPhone 6plus ได้ไม่มีปัญหา
ด้านบนเพดานก็ไม่ต่างจากชั้น economy ครับ เพียงแต่หนึ่งที่นั่งริมจะได้ไฟส่องสว่างด้านบนสองตัว ช่องแอร์มีสองตำแหน่งคือตำแหน่งบนเพดานใกล้ช่องเก็บสัมภาระด้านริมตามปกติ กับอีกช่องแอร์ที่ใต้ช่องเก็บสัมภาระ ดังรูป (ที่เห็นเป็นครีบๆ)
นั่งไปสักพัก ก็มีการปูโต๊ะเพื่อเตรียมเสิร์พอาหารครับ สำหรับโต๊ะนั้นพับออกมาจาก partition ด้านซ้ายนั่นเอง ข้อต่อดูมีความแข็งแรงและดูหนักแน่นเหมือนกัน
ขั้นตอนการเสิร์พ พนักงานต้อนรับจะดูแลผดส. จำนวนน้อยในชั้น Business ครับ
ตักต้นหอมใส่ ส่วนปาท่องโก๋ มีเข็นมาเสิร์พไม่อั้นครับ เอาให้จุกกันไปเลย
นอกจากจะมีโต๊ะพับด้านหน้าแล้ว ด้านข้างก็ยังใช้วางเครื่องดื่มได้ ถ้าสั่งเครื่องดื่มเยอะๆก็ไม่ต้องกลับล้นโต๊ะแล้วครับเพราะพื้นที่เยอะมาก น้ำส้มบนเครื่องไม่เหมือนน้ำส้มใน lounge นะฮะ ไม่อร่อยเท่า 555
กดดูรายการในจอ มีรายการยืดเส้นยืดสายระหว่างเดินทางด้วย
หมอนที่ให้มาด้วยเป็นแบบขนาดใหญ่พอสมควรครับ ใช้นอนได้พอดีหัว สบายดี
บริเวณด้านใต้ ต่ำกว่าที่นั่ง มีปลั๊กไฟ universal ทุกที่นั่งครับ
ช่องเสียงหูฟังครับ อยู่ใกล้ๆที่เท้าแขน
เวลาเอาของลง ช่องเก็บสัมภาระด้านบนมีกระจกมุมกว้างส่องด้วย ทุกช่องเช่นเดียวกันทั้งลำ
ตรงนี้อยู่ตรงด้านหน้าแถวๆ galley ครับ น่าจะเป็นที่สำหรับพนักงานต้อนรับทดสอบระบบ infotainment
ห้องน้ำครับ อันนี้ทางพนักงานต้อนรับบอกว่าเป็นห้องน้ำเล็กของส่วน business (แต่ก็กว้างอยู่นะ) ส่วนห้องน้ำใหญ่ดันมีคนทำเลอะไว้ เลยไม่ได้เข้าไปถ่ายรูปครับ ถถถ
อ่างล้างมือ พร้อมน้ำยาทำความสะอาด
ตรงนี้เก๋มากครับ ปกติที่ทิ้งขยะต้องใช้มือกดทำให้อาจมือเปื้อน แต่นี่เป็นระบบ infrared แค่เอามือไปเหนือฝาปิด มันจะเปิดให้ทิ้งได้ทันที ไม่ต้องสัมผัสฝาถังขยะ
ช่วงจะออก ขอพนักงานต้อนรับถ่ายรูปส่วนต่างๆของเครื่องบิน พี่เขาก็ใจดีบอกไม่ต้องรีบ ถ่ายตามสบาย ปรากฏนักบินเปิดประตูห้องเลยได้มีโอกาสถ่ายรูปครับ กำลังสอนงานกันอย่างขมักเขม้นเลย

ในส่วนของพนักงานต้อนรับก็มีการสอนงานกันเหมือนกันครับ เพราะเป็นเครื่องบินใหม่
ออกจากเครื่องล่ะครับ สังเกตจุดยึดประตูก็มีความแตกต่างจากเครื่องบินที่เคยนั่งมา
บ๊ายบายคุณวิเชียรบุรีที่เชียงใหม่ ผดส. ตื่นเต้น selfie กับเครื่องกันใหญ่
ขอบคุณที่ติดตามครับผม