รีวิว Royal silk การบินไทย ไป Sydney อิ่มมากๆ

ได้รับคำเชิญจาก intel ให้ผมไปดูงานที่ Sydney และได้จองตั๋วการบินไทยชั้น business class หรือ Royal silk TG-475 ระยะเวลาเดินทาง 9 ชม.จึงขอบันทึกเอาไว้พอสังเขปครับ

อ่านที่ intel พาเยี่ยมชม The Sydney Opera House ตอนที่ 1

และ เยี่ยมชม intel broadcast studio ตอนที่ 2

เช็คอิน Royal Silk

ไฟล์ท TG 475 มีเวลาเดินทางเฉลี่ยประมาณ 9 ชั่วโมงนิดๆ โดย เครื่องออกจากสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ 19:20 และถึงสนามบินคิงฟอร์ดสมิทธฺ์ ที่ซิดนี่ย์ประเทศออสเตรเลียประมาณ 7:20น.(​เวลาที่ Sydney เร็วกว่าไทย 4 ชั่วโมง) ซึ่งเป็นเวลากลางคืนทั้งหมดทำให้การเดินทางสบายและให้การพักผ่อนที่ดีมากครับ

เริ่มจากเช็คอิน พอเดินเข้าสุวรรณภูมิให้เดินไปด้านช้ายสุดอาคารเลย จะมีพนักงานมาถามว่า Royal Silk รึเปล่าคะ แล้วบอกให้เราไป checkin counter royal silk โดยเฉพาะ

royal_silk-01

เค้าท์เตอร์ Royal Silk จะยาวเหมือนเค้าท์เตอร์ปกติ แต่ต่างกันตรงไม่มีคนเลย และมีแจกันใส่กล้วยไม้อยู่ทุกช่อง

royal_silk-02

ตรวจกระเป๋า และผ่าน ตม. ส่วนตัว

พนักงานดูแลดีมากครับ (แต่ยังไม่ถึงขั้นนั่งกรอกใบ ตม.ให้เหมือน Royal First class นะฮะ) บริเวณนั้นก็มีโซฟาและที่นั่งให้กรอกใบ ตม. ด้วยฮะ หลังจากนั้นก็จะเดินเข้า Security เล็กๆตรวจกระเป๋าถือแบบส่วนตัว พนักงานตรงนี้ใส่สูทด้วยนะ และเข้า ตม. เล็กๆ แบบส่วนตัวเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีคิวเลย ตม. เหงาแย่เลยฮะ 555

Royal Silk Lounge

พอเดินออกจาก ตม. ก็จะพอ Royal Silk Lounge ลงบันไดเลื่อนไปด้านล่างก็จะพบกับเล้าจ์ซึ่งให้บรรยากาศที่ผ่อนคลายสบายอารมณ์ ซึ่งจริงๆแล้ว Royal Silk Lounge จะมีถึง 4 ที่ในสนามบินครับ (มีทำไมเยอะแยะ !) ที่ผมเข้าไปเป็นอันแรกหลัง ตม.เลยคือ Royal Silk Lounge Concourse D

royal_silk-03

สำหรับ Royal Silk Lounge อันแรกอันนี้จะเป็น Lounge ที่ใหญ่ที่สุด มีพื้นที่กว่า 2,400 ตร.ม. อยู่กันได้ 300 กว่าคนเลยทีเดียว มีห้อง private 2 ห้อง, wifi ฟรี (ขอรหัสที่ reception) มีคอมพิวเตอร์ให้ใช้หลายเครื่อง พร้อมเครื่องพิมพ์ด้วยครับ ผมเองลืมพิมพ์บัตรเชิญจากลูกค้าติดตัวมาก็มาพิมพ์ได้ที่นี่

นอกจากนี้ก็มีอีก 3 Lounge ที่ Concourse C – East, Concourse C – West, Concourse E – East ซึ่งมีขนาดเล็กลงเท่าๆกันที่ 667 ตร.ม. โดยทั้งสามเล้าจ์นี้มีห้องอาบน้ำด้วยครับ (ส่วนของ Domestic ก็มีอีกเล้าจ์เช่นกัน Concourse A ชั้นสอง ) เล้าจ์เหล่านี้คนที่ถือบัตรพวก Royal Orchid Plus Platinum card และพ่วงแขกของเขาหนึ่งคนก็มาใช้ได้ด้วยเช่นกันนะ

ผู้โดยสาร Royal Silk Class สามารถเดินไปใช้บริการ Royal Orchid Spa ได้ด้วย โดยจองเวลานวดคอและไหล่ หรือนวดเท้า 30 นาทีได้ครับ (ส่วนนวดตัวและนวดน้ำมัน 60 นาทีจะใช้ได้กับ ผดส. Royal First เท่านั้น) เนื่องจากผมมาก่อนไม่นาน เลยไม่ได้ไปจองคิวนวดเลย ฮือๆ

ยืมภาพด้านล่างจากรีวิว Royal Fist Class โดย @spin9

royal-orchid-spa

บาร์เครื่องดื่ม

มีทั้งแบบบรรยากาศสลัวๆ กับเดินไปอีกหน่อยก็มีแบบสว่างๆ ตรงที่สลัวๆก็มีการออกแบบแสงที่นั่งในบริเวณใกล้ๆให้ไม่แยงตา เป็นแสงแบบ indirect ซะส่วนใหญ่ครับ

royal_silk-04

นิตยสารนานาชนิด

royal_silk-06

คอมพิวเตอร์พร้อมเครื่องพิมพ์งาน

royal_silk-07

ที่นั่ง

มีหลายแบบให้เลือก โซนนี้ดูหรูหน่อย เหมาะกับถ่ายอวดสโลว์ไลฟ์คล้ายเฟิร์สคลาสครับ

royal_silk-08

ของกิน

มีตู้ซาลาเปาด้วยครับ มีหลายใส่้ให้เลือก ลองกินแล้วอร่อยใช้ได้นะ ถัดไปก็พวกพัฟ พาย ฯลฯ

royal_silk-09

ตู้เครื่องดื่มตรงบาร์มืดๆ มีเบียร์ด้วยนะฮะ หยิบตามใจชอบดื่มได้ดื่มไปแต่อย่าเมาเดี๋ยวคุณแอร์ไม่ให้ขึ้นเครื่องนะครับ !

royal_silk-10

Boarding B747

ต้องจำเวลา Boarding นิดหน่อยนะครับ เพราะเขาไม่ได้เตือน นี่ผมกะสักเจ็ดนาทีเหมือนช้าไปนิด แต่ถ้าเป็น lounge ที่ใกล้กว่านี้ก็กะเวลาได้กระชั้นชิดกว่าได้ครับ พอผมไปถึงก็ตกใจเพราะคนเยอะมากๆ เนื่องจากเครื่อง 747-400 ลำใหญ่ แต่พอโชว์ boarding pass Royal silk เขาก็กันที่เว้นช่องให้ลัดคิวเข้าไปก่อนเลย

คนเยอะและกะเวลากระชั้นไปหน่อยเลยไม่ได้ถ่ายเครื่องบินครับ ขอใช้รูปจาก wiki Boeing 747-400 ลำนี้แหละ

สังเกตไหมครับว่าบริเวณด้านบนหัวโหนกของ B747 จะมีหน้าต่างเรียงอยู่ซึ่ง Royal Silk ของผมอยู่ที่ชั้นสองของหัวเครื่องบินลำนี้นี่เอง อยากเป็นผู้โดยสารชั้นสองของ B747 มานานแล้วครับ

thais

เนื่องจากเป็นผู้โดยสารชั้นสอง เข้าประตูที่งวง business มาก็ต้องขึ้่นบันไดนี้ ขอเหนือระดับบ้างไรบ้างนะครับ (แต่ถ้านั่งชั้นล่างหน้าสุดจะเป็น Royal First Class ซึ่งหรูกว่าแพงกว่า 555)

royal_silk-11

Royal Silk Seat

ขึ้นมาชั้นสองก็จะพบกว่าที่นั่งซึ่งเป็นลักษณะแคปซูล มีเฉพาะชั้น Royal Silk class เท่านั้น ด้านหน้าสุดจะเป็นสุขาและห้องนักบิน ที่นั่งจัดเป็นฟากละสองที่ เหมือนเป็นห้องส่วนตัวของชาว Royal Silk

royal_silk-14

ผัง Boeing 747-400 จะเห็นว่ามีชั้น Royal Silk ทั้งชั้นบน (ที่ผมนั่ง) และชั้นล่างครับ

B747-400

ที่นั่งกว้างขวางอย่างมาก ผมสูง 183 ซม. ไม่สามารถเอาขาไปแตะที่นั่งด้านหน้าได้เลย

royal_silk-12

เบาะนั่งเป็นแบบแคปซูล คือเวลาปรับเอนเบาะจะไม่รบกวนคนข้างหลัง แต่ตัวเบาะจะยืดยาวไปด้านหน้าและย่อตัวลงต่ำแทน ตัวเบาะสามารถปรับได้หลากหลายระดับ จนถึงเอนนอนเกือบราบ มีแผ่นที่รองเท้า และมีปุ่มนวด ปรับดุนหลังมากน้อยได้ ความรู้สึกของเบาะคือตอนนั่งก็สบายดี ตอนเอนนิดหน่อยก็ให้ความสบายอย่างมาก แต่พอปรับเอนนอนสุดผมพบว่าสรีระของผมซึ่งตัวยาวตรงบริเวณหลังด้านล่างเหมือนจะ support ไม่ค่อยพอดีแม้จะลดการดุนหลังจนสุดแล้ว เลยแก้ด้วยการนำผ้าห่มมารองก้นพบว่านอนได้พอดีสบายมากครับ (หลังผมมีปัญหาเดียวกับเบาะของนครชัยแอร์ firstclass ทั้งที่คนอื่นก็นอนกันสบายนะ) ใครตัวยาวแล้วนอนไม่สบายลองแก้แบบผมได้นะครับ

royal_silk-15

ไฟอ่านหนังสือ LED แบบปรับมุมได้ อันนี้เวลาที่เขาปิดไฟและผมจะกรอกใบ ตม.ออสเตรเลีย ก็ใช้ไฟอ่านหนังสืออันนี้แทนไฟบนเพดานครับ (ไฟบนเพดานดูสว่างไปหน่อยกลัวรบกวนคนข้างๆ)

royal_silk-16

หลังแจกผ้าร้อนก็แจกแชมเปญกันหน่อย ตอนนี้เครื่องยังโหลดผู้โดยสารยังไม่เสร็จเลยครับ

royal_silk-17

เข็นหนังสือมาให้ ผมก็วางมาดหน่อยเลือกหยิบ The economist ซึ่งปรากฏว่ายังไม่ได้อ่านเลย 555

royal_silk-18

วานคุณแอร์ถ่ายให้ครับ

royal_silk-19

ด้านหน้ามีเมนูเสียบอยู่ให้ลองอ่านลองเลือกเล่นๆ แต่ถ้าไม่ได้อ่าน คุณแอร์ก็จะมาอ่านให้เลือกอยู่ดีครับ

royal_silk-20

ในห้องน้ำ มีม้อยเจอไรเซอร์ให้ด้วย

royal_silk-21

มหกรรมของกิน on board

นั่งชั้นสองนี่นิ่มและเงียบพอสมควรเลยครับ เมื่อเครื่องขึ้นได้ระดับแล้วก็เริ่มมหกรรมสวาปามกัน คุณแอร์ช่วยยกโต๊ะไม้ออกจากข้างเบาะ เริ่มจากออเดิร์ฟ มูสกุ้งพันตะไคร์และซอสพริกน้ำผึ้ง ผมก็หยิบตรงตะไคร์มากินสิครับ ผลคือมือมันเลย คาดว่าผู้โดยสารคนอื่นๆคงเป็นเหมือนกัน แต่พอทานเสร็จพนักงานก็แจกผ้าร้อนเช็ดมือ (อีกแล้ว) ซึ่งตลอดการเดินทางแจกหลายเที่ยวมากครับ

royal_silk-22

เหล่าเครื่องดื่มดาหน้ากันเข้ามา คุณแอร์ถามจะรับไวน์ตัวไหน ผมไม่มีความรู้เลยเขาก็อธิบายให้ฟังด้วยนะฮะ สรุปผมบอกเอาตัวที่คนกินไม่เป็นชอบละกันครับ

royal_silk-24

ปูโต๊ะเรียบร้อยก็เริ่มเสิร์ฟ เทอรีนตับเป็ดปรุงรสไวน์แดง กับซอสคาราเมลแอปเปิ้ล ผมชอบมากฮะ รสมันส์อร่อยดีมาก ข้างๆเป็นซูกินีปรุงรสบัลซามิก และสลัดปกติ

royal_silk-25

ผมเลือกบะหมี่ผัดซอสขิงและเห็ด ด้านข้างๆเป็นหมูคุโรบุตะแผ่นๆครับ บะหมื่กับซอสอันนี้ก็อร่อยดี ส่วนคุโรบุตะแข็งไปนิดนึง (มีให้เลือกอืกสามรายการ เช่นเนื้อไวน์แดง,มัสมั่นไก่, ปลา)

royal_silk-26

ไวน์ยังคงมาเรื่อยๆ > < ผมกินทั้งเบียร์ทั้งไวน์เริ่มเมาๆนิดนึงฮะ

royal_silk-27

ตามด้วยชีสสองชนิดและผลไม้ให้ความสดชื่น

royal_silk-28

royal_silk-29

เดี๋ยวๆ หลังผลไม้ยังมีขนมพร้อมน้ำชามาอีกกกกกก

royal_silk-30

ขนมเทียนสลัดงา และ พันนาคอตต้าช็อคโกแล็ตพร้อมเยลลี่แอปริค็อตแอลม่อน อันนี้อร่อยมาก

royal_silk-31

ดูด้านข้างเบาะจะเห็นถุงใส่ของใช้กระจุกระจิกหนึ่งใน inflight amenities ของ THANN ซึ่งเป็นแบรนด์ไทย (ของรุ่นพี่วิศวฯจุฬานี่เองครับ) แต่ฝรั่งชอบกันมาก คือผมไปเจอต่อที่โรงแรม Mariott Sydney ด้วยครับ

royal_silk-32

ภายในก็จะมียาสีฟันแปรงสีฟัน ครีมเพิ่มความชุ่มชื้นต่างๆ earplug กันเสียงรบกวน ไปจนถึงถุงเท้า และแผ่นปิดตาเพื่อให้หลับสนิท
royal_silk-36

หูฟังเป็นแบบ noise cancellation พอขยับนิดหน่อยก็จะเงียบ แต่ผมคิดว่าสายหูฟังไม่ค่อยดี ทำให้มีเสียงรบกวนสลับระหว่างเงียบกับเสียงดังตลอด พอขอเปลี่ยนหูฟัง อันใหม่ก็เหมือนเดิมแฮะ เลยขยับๆช่องเสียบหูฟังให้ระบบ noise cancellation มันไม่ทำงานเสียงก็จะสม่ำเสมอกว่า คุณภาพเสียงก็ถือว่าดีเลย ประกอบกับจอที่ใหญ่ให้อารมณ์ดูหนังอยู่บ้านได้ดีทีเดียว อย่างไรก็ตามจะมีเบาะที่อยู่หลังประตูหนีไฟจะได้จอพับเก็บได้ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าแทนครับ

ดูหนังจบแล้วก็ปรับเบาะเอนนอน เครื่องบินก็จะปิดไฟในห้องโดยสาร

royal_silk-33

หลับปุ๋ยรวดเดียวไปจนมีเสียงเรียกกินข้าวเช้า โอ้ว เดินทาง 9 ชั่วโมงนี่เขากินข้าวกันสองมื้อเลยหรอเนี่ย (จริงๆคุณแอร์ก็ถามนะฮะว่าจะกินรึเปล่า จะนอนต่อก็ได้นะ แต่ด้วยความขี้เหนียวเลยต้องกิน 555) ส่วนตัวผมคิดว่าไฟล์ท 9 ชั่วโมงนี่พอกินสองมื้อมันหลับสี่ชั่วโมงไม่เต็มอิ่มเท่าไหร่ ถ้าไฟล์ไปยุโรป 12 ชั่วโมงน่าจะหลับได้สบายๆพอดีๆและกินสองมื้อได้เหมาะๆมากกว่าฮะ

อาหารเช้าพร้อมโยเกิร์ต สังเกตมีให้ไหมขัดฟันแบบยึดไม้สำเร็จรูปมาด้วยในถาดนะ

royal_silk-34

มื้อเช้ามีให้เลือกระหว่างใส้กรอกเนื้อลูกวัว+คีชหอมหัวใหญ่ กับไข่ทอดเห็ด ไก่รมควัน ผัดโขม กับ เทอรีนหมู ซาลามี่ ผมเลือกไข่ทอดเห็ดกับไก่ครับ อันนี้รสชาติเหมือนอาหารเช้าโรงแรมทั่วไป

royal_silk-35

Arrival

พอลงที่สนามบินคิงฟอร์ดสมิธ ก็ได้ลงก่อนคนอื่น และได้การ์ด Express Arrival ด้านล่างนี้ทำให้ไม่ต้องต่อคิวตรวจคนเข้าเมืองที่ยาวเป็นงูเลื้อยครับ (น้องที่เคยมาแบบปกติบอกรอคิวเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว) เข้ามาได้เร็วมาก ตม. ไม่ถามอะไรสักคำเลย ไม่ตรวจเอกสารสักอย่างด้วยนอกจาก passprt เท่านั้น เซอร์ไพร์ทมากๆครับ

royal_silk-37

ขอจบการรีวิว Royal Silk Class แต่เพียงเท่านี้ครับ รอตอนต่อไปเป็นการดูงาน Opra House จัดโดย intel

IMG_6568