เมื่อวานไปนั่งดื่มเบียร์ บังเอิญเห็น @mrMaew เปิด invite ให้ join Hangout ได้ใน Google+ ก็เลยกดเข้าไปลองดูครับ พบว่ามัน Work พอสมควรทีเดียวนะเนี่ย อารมณ์ในการแจมนั้นง่ายมาก เราจะเห็นหน้าจอของทุกคนและเมื่อใครพูด ระบบจะ detect หน้าจอคนนั้นแล้วดึงขึ้นมาเป็นหน้าจอใหญ่โดยอัตโนมัติ โอ้ว อิท ทิส อะ แมส ซิ่ง – -”

จากนั้นทุกคนก็ลองฟังก์ชั่น YouTube ซึ่งครั้งแรกผมเปิดบน Safari ปรากฏมันไม่ทำงานแฮะ เลยหันมาเปิดด้วย Chrome แทนซึ่งก็ทำงานได้ดี อารมณ์เหมือนกับแต่ละคนเป็นดีเจหา VDO ผลัดกันมานำเสนอเพื่อนๆกัน สำหรับใครที่อยากจะพูดเวลา VDO ทำงานอยู่ก็กดปุ่ม push to talk สีเขียวๆได้ และคนที่เป็น DJ ยังสามารถเลื่อนแถบเวลาให้เพื่อนๆไปดูในจุดที่ต้องการได้อีกด้วย

และนี่คือ VDO ที่ @rabbitinblack ได้นำมาเสนอ… (ถ่ายหน้าจอโดย @misteraum)

พอ hangout เสร็จไปแล้วก็ขึ้น report มาด้วยว่าใคร Hung out ไปกับเราบ้างเมื่อสักครู่นี้

ผมว่า ที่ Google ตั้งชื่อว่า Hangout แทนที่จะเป็นพวก Conference นี่ตรงประเด็นดีมากเลยครับเพราะมันใช้ได้ทุกโอกาสจริงๆครับ แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องหัดวัฒนธรรม Delay เวลาพูดกันนิดหน่อยก็พอ 😉
วิธีใช้ Hangout
กดปุ่มใช้ Hangout ที่ Google+ ได้เลยครับ

Hangout จะมี pop up ขึ้นมาว่า “กรุณาเช็คทรงผมของคุณ” และให้เช็คไมโครโฟนด้วย ถ้าใช้ Mac บางเครื่องก็อาจจะลง plugin ก่อนแป๊ปเดียวครับ ส่วนด้านล่างจะให้เราเลือก Circle ที่เราจะ hangout ด้วยเข้ามาได้เลย

มุมมองการใช้งาน Hangout ในบริษัท
การใช้งาน Google+ กับ Hangout สามารถทำให้การประชุมงานและ track งานเป็นไปได้ง่ายขึ้นมากทีเดียวครับ ผมคิดว่าถ้า Google มีระบบ Cloud ที่เก็บไฟล์ได้เวิร์คแบบ Dropbox อีกสักหน่อยน่าจะสุดยอดแน่นอน เพียงแต่คงค้อง trade off กันอย่างมากด้านการใช้งานในการทำงาน กับโอกาสที่ผู้ใช้งานขะเสียเวลาไปกับกลุ่มเพื่อนๆของเขานะครับ บางทีแม้แต่การทำงานก็อาจจะต้องปรับองค์กรให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมแบบใหม่ในโลกเสียแล้ว
Google Hangout ระหว่างประชุม
ความเห็นส่วนตัว สงคราม Google กับจีน
อย่างที่รู้กันว่า Google ถูกจีนบล็อก ตอนนี้ http://plus.google.com ก็ไม่สามารถเข้าได้ที่จีนเช่นกัน ดังนั้นถ้า Google ออกผลิตภัณฑ์ที่ “มีส่วนช่วยด้านประสิทธิภาพในการทำงานและการติดต่อสื่อสาร” มากขึ้นเท่าไหร่ จีนอาจจะต้องพิจารณาประสิทธิภาพของประเทศตนเองมากเท่านั้น แต่ก็ต้องดูทิศทางของโลกด้วยเช่นกันว่าคุณค่าไปในทิศทางที่ต้องอาศัยประสิทธิภาพทางการสื่อสารความคิดหรือเปล่า อนาคตเราอาจจะไม่ได้เห็นสงครามระหว่างประเทศกับประเทศแต่เป็นสงครามระหว่าง ประเทศกับ Google แทนก็เป็นได้นะครับ