ครบรอบ 1 ปี รำลึก เหตการณ์ 19 พค. 2553

เขียนบล็อกนี้เพื่อรำลึก 19 พค. 2553 วันที่มีผู้เสียชีวิตมากมายที่ราชประสงค์และยังไม่มีคนรับผิดชอบ รวมถึงความวุ่นวายจากเหตุเพลิงไหม้ รวมทั้งเป็นวันที่ timeline เดือดดาลที่สุดในประวัติศาสตร์ครับ วันนั้นหลายคนถึงกับต้องปิด twitter , facebook หนีกันเลย หลายคนทะเลาะกันเพราะโพสภาพผู้เสียชีวิตใน facebook ผมเองก็ถูกเพื่อนๆในกลุ่มกดดันให้นำภาพผู้เสียชีวิตลงจาก facebook เช่นกัน

Crackdown in bangkok
Crackdown in bangkok

ดูภาพ crack down ในวันที่ 19 พค.ได้ที่ Boston Big Picture

ในวันนั้นโรงเรียน iSchool ที่ผมเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและปัจจุบันถือหุ้นอยู่ ก็อยู่ในตึกโรงหนังสยามก็ไฟไหม้เช่นกัน ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากจะพยายามหยุดความรุนแรงใน TL ด้วยการเขียนบล็อกที่เต็มไปด้วยความรู้สึก คือพูดตรงๆว่าออกแนวดราม่าเล็กน้อย+แถมมาร์เก็ตติ้งนิดหน่อย แสดงถึงสิ่งที่เราพยายามสร้างมาและพังไปกับมือ และเป็นบล็อกที่คนแชร์รวดเร็วและเยอะที่สุดบล็อกหนึ่งของผม

สำหรับท่านที่ยังไม่เคยดูบล็อกดังกล่าว ดูที่ ไฟในใจ?ขอให้มอดดับไปกับบทเรียนในครั้งนี้ ซึ่งได้คำปรึกษาจาก @warong ในการเขียนด้วยเช่นกันครับ

ความจริงโรงหนังสยาม มีแผนจะถูกทุบทิ้งอยู่แล้ว

สิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้และผมไม่ได้เล่าในบล็อก “ดับไฟในใจ” เพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์ในเวลานั้น ก็คือเหล่าผู้ประกอบการณ์ในตึกโรงหนังสยาม ได้ทราบมาก่อนล่วงหน้าแล้วครับว่า โรงหนังสยามกำลังจะถูกทุบทิ้งภายในสิ้นปีนั้น
ผู้ประกอบการณ์เองก็กำลังมองหาที่ใหม่อยู่ และนี่เป็นสาเหตที่ทำให้ผมรู้แน่นอนว่า ถ้าจะมีการเผาสถานที่ โรงหนังสยาม คงจะต้องถูกเผาแน่นอน ทำให้เราตัดสินใจรีบย้ายของขนาดเล็กที่มีราคาแพงเช่น Macbook ออกมาก่อนหน้าที่จะถูกเผาไม่นานครับ ต่อมาสยามได้สนับสนุนให้เจ้าของกิจการที่เช่าตึกโรงหนังสยามได้สิทธิในการเลือกออฟฟิศในตึกสยามกิตติ์ใหม่ก่อน iSchool จึงย้ายไปอยู่ชั้นห้าตึกสยามกิตติ์นับแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน

ส่วนหลังจากโรงหนังสยามถูกเผาก็มีวาทกรรมออกมามากมายให้คนได้ซึ้งกัน รวมทั้งเป็นฉากให้รัฐบาลและแกรมมี่ทำเพลง “ขอความสุขของเราจงคืนกลับมา” ผมเองก็ได้แต่นั่งขำครับ คนอยากทุบไม่ต้องจ่ายค่าทุบแถมจบอย่างซึ้ง 😀

ตัวอย่างวาทกรรมโรงหนังสยาม
ตัวอย่างวาทกรรมโรงหนังสยาม

ภาพและบทความจาก whoweeklymagazine.com

“จนกระทั่งถึงเวลานี้ ก็ยังเป็นการต่อสู้กันระหว่างวาทกรรม รัฐบาลปราบปรามประชาชน กับ วาทกรรม เผาบ้านเผาเมือง อยู่เลย” : อ.ชูศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์

หลังจากนั้นเพื่อนผมก็ไปสร้างเพจ ร่วม”ดับไฟในใจคน” รณรงค์ไม่โพสกระตุ้นความโกรธความเกลียดชัง ที่ Facebook และมีผู้เข้าร่วมพอสมควรครับซึ่งเป็นเพจหนึ่งในไม่กี่เพจที่ร่วมทำให้คน “เย็นใจลงก่อน ถึงจะค่อยหันมาพูดด้วยเหตผลกัน ” โดยเพจ ณ ขณะนั้นส่วนใหญ่จะถูกทำมาเพื่อสร้างความรุนแรงให้มากขึ้น มีการกระตุ้นความเกลียดชังให้มากขึ้นตามลำดับทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้

ต่อมา @Rockdaworld ก็มีการจัดกิจกรรม #TWT4TH ที่ร้านกาแฟวาวีซึ่งมีจุดประสงค์ทำให้ผู้ใช้ twitter หันมาคุยกันแบบใช้เหตผลและสร้างสรรค์มากขึ้นก่อนจะสืบกิจกรรมต่อเนื่องทำงานอาสาหลายๆอย่างจนถึงปัจจุบันครับ และช่วงนั้นมีกิจกรรมหลายอย่างที่จะช่วงพัฒนาวิธีการสื่อสารระหว่างกันมากขึ้น ผมจึงเขียนบล็อก อย่าท้อแท้ในการสนับสนุนเข้าร่วมงานเสวนาต่างๆที่เป็นงานเปิดกว้าง

บล็อกน่าสนใจที่เขียนในช่วง 19 พค

กรณีศึกษา @inattt follower เพิ่ม 7000 คนใน 1 เดือน /อนาคตของสื่อ?

บล็อก ประเมินสถานการณ์ 24-28 พค 2553 หลังสิ้นสุดการชุมนุม ซึ่ง SIU ได้ประเมินการแตกหักของการชุมนุมอย่างแม่นยำมาแล้ว ในตอนนั้นยังประเมินว่าพันธมิตรจะหันกลับมาโจมตีประชาธิปปัตย์ในที่สุดซึ่งในจังหวะนั้นทุกคนน่าจะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้แต่ปัจจุบันก็เป็นไปแล้ว

บล็อก รวม Clip/โพสน่าสนใจ การชุมนุมในเดือน พค 2553 โดยสิ่งที่น่าสนใจคือผมเองรวมคลิปและลิงก์โดยให้ความเท่าเทียมกันทั้งสองฝ่าย ( คลิปที่รัฐเสียหาย และเสื้อแดงเสียหายเท่าๆกัน ) ปรากฏว่ากลับไปเช็คอีกครั้ง ลิงก์ที่ฝ่ายรัฐเสียหายถูกบล็อกทำให้ลิงก์ตายเกือบหมดครับ

รัฐบาลได้ทำเว็บประมวลเหตการณ์ factreport.go.th เพื่อช่วยในการชี้แจงเหตการณ์ต่างๆ เว็บทำโดย Opendream และให้คำปรึกษาด้านดีไซน์โดยทีมไทเกอร์(คุณเม่นคุณจ๋ง)ครับ

การจัดงาน #igniteTH งานจุดประกายพลังบวก ซึ่งจัดที่สวนลุมพินี มีหลายคนสนใจเข้าฟังเป็นจำนวนมากเพราะเนื้อหาในการพูดหลายคนค่อนข้างเข้ากับสภาการณ์ในตอนนั้น รวมถึงมีโครงการของ @fringer ที่ @hunt เป็นคนนำเสนอบนเวทีด้วยครับ รวมทั้งมี VDO หนังโฆษณา “ขอโทษประเทศไทย” โดยเครือข่ายพลังบวก ที่ถูกแบนใน TV นำมาฉายในงานนี้

อ้อ ช่วงนั้นมี twitter ” คนคิดลบ ” มาปะทะกับเหล่าเซเล็ปคิดบวกทั่ว Timeline อันแสดงถึงความประสบความสำเร็จของกระแสคิดบวกเป็นอย่างดีด้วยครับ 😛

บล็อก เกิดการปะทะ เสื้อชมพูกับเสื้อแดง ที่วาวีวันนี้ ! มีการชีนำให้เห็นว่าแม้แต่วง iHear ที่คิดต่างกันก็ยังทำงานหาเงินด้วยกันได้ครับ 🙂

คิดต่าง ก็อยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกันได้ครับ
คิดต่าง ก็อยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกันได้ครับ

ความประสบความสำเร็จส่วนตัวของผมเองในด้านการ influence TL ทางอารมณ์

หลังจากช่วงนั้น TL ก็มีแนวโน้มที่พูดจากันดีขึ้น การใช้อารมณ์ลดลง บางคนเถียงไปเถียงมาบ่อยๆมีการพัฒนาตัวเองทางด้านความคิดอย่างน่าตกใจ ผมเองได้เพื่อนใหม่ในการเสวนาเป็นจำนวนมาก หลายคนมีทักษะในการจัดการกับปัญหาครอบครัวที่คิดต่างกันได้ อย่างไรก็ตามอันนี้ผมวัดผลของผมเองนะครับ อย่าถือเป็นสาระ 🙂

ประชาธิปไตยต้องก้าวต่อไปครับ ขอรำลึกถึง 19 พค. ตลอดไป