อุบัติเหตุรถตู้ : ว่าด้วยเรื่องของข่าวใน twitter

เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 27 ธค. 2553 เวลา 22:00 น. มีเหตการณ์ที่น่าเศร้านั่นคือมีรถตู้และรถเก๋งเกิดอุบัติเหตุบนโทลเวย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และเนื่องจากเป็นรถตู้ที่รับส่งที่ มธ.รังสิตทำให้ให้ในรถมีนักวิจัย อาจารย์ และนักศึกษาเสียชีวิตหลายคน โดยผมได้ข่าวในช่วงก่อนห้าทุ่ม

ต้องขอไว้อาลัยไว้นะที่นี้ด้วยครับ 🙁 อุบัติเหตเมื่อเกิดขึ้นไปแล้ว จะพอมีประโยชน์ต่อสังคมได้เมื่อทุกคนมีหน้าที่ช่วยกันเก็บเป็นบทเรียนไม่ประมาท )

ส่วนผมเองมีความเข้าใจธรรมชาติของการเกิดอุบัติเหตในหน้างานพอสมควร เพราะเคยเกิดขึ้นกับตัวเอง เช่นรถเมล์คว่ำสมัย ม.2 มีคนตายสองคน และเมื่อปี 2550 รถผมถูกชนโดยคนขับเด็กผู้หญิง และผมเป็นคนเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นเนื่องจากตอนนั้นยังไม่มีทวิตเตอร์จนได้เป็นกระทู้แนะนำของ pantip ตาม cache นี้ )

วันที่ 1 ของข่าว

มาต่อที่ลักษณะข่าวมีเนื้อหาที่ยังไม่นิ่งแต่มีการ RT กันมากมายใน TL ซึ่งเป็นธรรมชาติของ twitter มีบางคนแก้ไขบ้างบางคนไม่แก้บ้างหลังจากนั้น และนักข่าวก็ RT คนที่มีแนวโน้มเป็น influencer ในขณะที่ข้อมูลยังไม่นิ่ง ในความคิดของผมการที่จะบังคับให้คนอื่นตรวจสอบข่าวก่อนนั้นก็ลำบากครับ เราเองต้องตรวจสอบและวิเคราะห์เองตลอด

ในเรื่องนี้ถ้าจะพูดกันก็มีประเด็นเรื่องเข็มขัดนิรภัยและความปลอดภัยต่างๆและประเด็นรถสาธารณะซึ่งต้องทำกันต่อไป แต่ที่อยากนำเสนอคือเนื้อหาของข่าวระหว่างที่ยังไม่สรุปนั้นเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามความคิดและอคติของคนครับ

– ในครั้งแรกข่าวเป็น รถตู้ตกโทลเวย์ มีผู้เสียชีวิต

ปรากฎว่าคนระดมด่ารถตู้กันใหญ่ทั้งที่ยังไม่รู้สาเหต ว่าขับอย่างนั้นอย่างนี้ มัวแต่แข่งกัน ตอนผมนั่งเป็นหยั่งงั้นอย่างนี้ ( แม้แต่ผมเองยังพูดประโยคที่กระทบรถตู้ไปด้วย ) และพูดกันไปถึงการควบคุมรถตู้รวมถึงเรื่องที่พูดง่ายทำยากอย่างต้องทำให้คนขับรถตู้มีจิตสำนึก ฯลฯ

– รถตู้แย่มาก คนขับแบกความรับผิดชอบขนาดนี้ทำไมไม่สำนึก

– ผมเคยเจอรถตู้แซงซ้ายขวาน่ากลัวมาก บรา บรา บรา …

– คงเป็นรถตู้ไม่ได้มารตฐาน 

– เนี่ยมันน่าลงโทษอย่างรุนแรงกับคนขับรถตู้ที่แย่อย่างนี้ 

– ไม่มีใครพูดถึงคนขับรถเก๋งเลย เพราะอคติอยู่ที่รถตู้หมด

– มีข่าวออกทีวี บอกว่า รถตู้และเก๋งนั้นขับแข่งกัน ส่วนคนนั่งอยู่ในรถตู้เป็นคนทำงานที่นวนคร 

– ต่อมา รถตู้ไม่ได้ตกโทลเวย์ และที่เกิดอุบัติเหตเพราะรถเก๋งมาชน

คนใช้เวลาอยู่พอสมควรในการเปลี่ยนมาเล่นประเด็น “นามสกุลของคนขับรถเก๋ง” แทนว่าคดีคงไปได้ยากอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ได้ว่ากล่าวมากแต่อย่างใด

ว่าด้วยเรื่องข่าวลือ

การตัดสินก่อนรู้ข้อมูลจริงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างไปเร็วใน Social Network อย่าง twitter แต่ด้วยตัวระบบก็ทำให้คนเรียนรู้ค่อนข้างเร็วเช่นกัน (ภายใน 2 ชั่วโมง) แต่จะสำคัญว่ายอมแก้ไขหรือรับผิดชอบหรือเปล่า ซึ่งคนที่มี follower มากบางคนก็มักจะเริ่มได้รับการเรียนรู้ถึงความรับผิดชอบขึ้นมาบ้าง เพราะเคยได้รับผลกระทบจากการทวีตผิดมาแล้ว

เนื่องจากกรณีอุบัติเหตเป็นเรื่องที่ทุกคนมีแนวโน้มอยากรู้ข้อเท็จจริง ทำให้ข้อมูล “วิ่งเข้าสู่ข้อเท็จจริงได้ในที่สุด” แม้จะค่อนข้างยากหรือมีบางคนยังเข้าใจผิดอยู่ แต่ในกรณีที่ผู้เผยแพร่ข้อความหรือสังคม online นั้นๆมีอคตินั้น ทิศทางของข่าวจะไปในทางที่ไม่มีทางเป็นความจริงไปได้เลย เปรียบเสมือนเรื่องการเมืองในช่วงที่ผ่านมานั่นเอง

คุณเองต้องการความจริงแค่ไหนครับ ?

( โพสนี้ได้แรงบันดาลใจจาก tweet ของ @feelinglomo และขอแนะนำ tweet ของ Lecturer มธ @chalidaporn ซึ่งอธิบายความรู้สึกของ มธ. ได้ดี )

วันที่ 2 ของข่าว

Update วันที่ 28 ธค ช่วง 22:00

จากเมื่อวานนี้ที่มีแต่ความโศกเศร้า วันนี้ TL ก็ต้องมีที่ลงแห่งความโกรธแค้นตามคาดครับ ! เนื่องจากมีผู้ส่งรูปที่น้องคนขับกด BB มา และรู้ความจริงว่าคนขับรถเก๋ง ( แพรวา ) นั้นอายุไม่ถึง 18 ปี ทำให้ TL มีการด่าทอและเกิด page FB ขึ้นมาด้วย

ประเด็นที่สังคมเล่นอย่างรุนแรงคือ

– ทำไมรูปในที่ต่างๆที่น้องเคยไปถ่ายแบบหายไป
– ญาติพี่น้องเธอต้องใหญ่มาก มีบางคนเป็นตำรวจ เรื่องเงียบแน่นอน หลุดแน่นอน ต้องช่วยกันล่าแม่มดออกมา
– กด BB หลังเกิดเหตทำไม ไหน”ข่าว”ว่าบาดเจ็บ ทำไมไม่ไปช่วยคน
– มีทวิตหลายคนวิเคราะห์ว่าคนขับรถเก๋งน่าจะกด BB ขณะขับรถเป็นเหตให้เกิดอุบัติเหต
– การกด BB แสดงให้เห็นว่าไร้มนุษยธรรมต่อคนตายอย่างที่สุด มีการอัพ FB หลังจากนั้นด้วย
– อายุไม่ถึงพ่อแม่ให้ขับได้อย่างไร พ่อแม่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ต้องชดใช้
– fb page มีคน Like 6000 คนในเวลาไม่ถึงชั่วโมง

ประเด็นอื่นๆ

– เสร็มด้วยประเด็นของผู้ที่เสียชีวิตบางคนที่น่าเศร้ายิ่งขึ้นไปอีก เช่นคุณแม่ร้อยมาลัยส่งเรียนดร. ( ตอนหลังเป็นคุณแม่ไม่ได้ส่ง แต่ดร.เป็นคนขยันสอบกพได้เอง อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าน่าเสียดายจริงๆครับ อย่างคุณอุกฤษฎ์ รัตนโฉมศรี ที่เสียชีวิตก็เป็นนักวิจัยที่มีผลงานได้รับรางวัล ซึ่งผมน่าจะเคยเจอด้วย )
– ประเด็นโตโยต้าถูกด่าว่าทำประตูรถตู้ไม่แข็งแรง ทำไมหลุดง่ายขนาดนั้น

ผมอยากให้เราถามตัวเองให้ชัดครับ ว่าอะไรที่เราคิดเอง และความจริงเธอผิดตรงไหนจริงๆ และการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ถูกวิเคราะห์แล้วหรือยัง ?

วันที่ 3 ของข่าว

TL ยังคงร้อนแรงเวลา 10:00 น.

– fanpage ของหน้าเกลียดชังน้องคนขับขึ้นไปถึง 60000 คน ! ( ในเวลา 1:30 น. เมื่อคืนเพิ่มด้วยความเร็ว 10 คนต่อ 1 วินาที ) หลายคนด่าด้วยถ้อยคำรุนแรงประเภท ต้องกำจัดทั้งตระกูล

– เริ่มมีข่าว ” นักวิชาการพบ 3 ประเด็นใหม่ กรณีรถตู้ 8 ศพ ” ( ทวีตจาก @bank_xavi )

1.ที่ร่องรอยรถตู้ ไม่มีรอยถูกชนจากรถเก๋ง
2.ที่รถเก๋งมีสีแดงติดอยู่ข้างรถ อาจเป็นคันที่ 3 ซึ่งเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุนี้
3.สภาพรถตู้ประตูปิดสนิท เพราะหากระบบรางบิดเบี้ยวประตูจะเลื่อนไม่ได้ ดังนั้นคนที่กระเด็นออกมาจึงออกมาทางหน้าต่างที่แตกหมด ( อ้าว แล้วที่ด่าโตโยต้าล่ะ ?? )

– ประเด็นกฎหมายคุ้มครองเด็กและเยาวชนซึ่งอาจทำให้ผู้เผยแพร่ภาพน้องแพรวามีความผิดได้ ?!?

– ประเด็นกฎหมายอาญาเด็กและเยาวชนข้างต้นนั้น มีการ ” เปิดโอกาสให้กระบวนการยุติธรรมพิจารณาลดหย่อนโทษได้มาก ” ( ข้อมูลจาก @mr_aum )

– สงสัยจะเมาตอนขับรถ

– ประเด็นกระทู้พันทิพย์หายไป

– ที่กล่าวมา ทำให้คนที่ด่าว่าอยู่ยิ่งมีอคติมากขึ้นว่าเป็นเพราะตระกูลใหญ่ ทำให้ข่าวจะเริ่มเงียบ

– การเงียบไป 2 วันหมายถึงคนขับคิดหนีความผิด

– คนขับอาจมีการหนีกลับไป อเมริกา และการแซงซ้ายคงเพราะชินกับอเมริกา

– ข่าวใน FB ไปไกลดังตัวอย่าง

แพรวาบินออกนอกประเทศแล้วเมื่อคืน!!! ส่วนเรื่องคดีปิดไปตั้งแต่คืนเกิดเหตุแล้ว ปรับ400..ข้อหาไม่มีใบขับขี่ เฉลี่ยแล้วราคาต่อศพ ศพละ 50 บาท!!!

– มีการพยายามหารูปน้องแพรวา “บางรูป” มาลง fb แต่เอามาผิดคน ความจริงเป็นรูป profile twitter ของน้องเพียว @PUREloveNUT ซึ่งไม่เกี่ยวข้องอะไรเลย

– มีข้อความออกมาจากแพรวาหลังเกิดเหต แต่ภายหลังพบว่าไม่ใช่ข้อความนั้นมาจากแพรวาจริงๆจากข้อความ > ( RT @Rattapon_Nation: ข้อความนี้มีการยืนยันว่า แพรวา ไม่ได้ทวิต เป็นการทวิตของบุคคลอื่น ขออภัยครับ http://yfrog.com/h3lprgj )

– มี youtube ของ CCTV Tollway ออกมาแล้ว

– จากทวีตสรุปของ @smileyKiD
1. มีน้องคนนึงทวีตออกความเห็นที่ค่อนข้างตรงแทงใจ แล้วโดน Capture รูปไปลงใน Page ล่าแม่มดนั่นเมื่อคืน ดีที่รูปถูกลบและไม่บานปลาย
2. Database ตระกูลดังถูก Hack เข้าไปป่วน พิมพ์ข้อความหยาบคาย
3. น้องคนหนึ่งในทวิตเตอร์ ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแม่มด โดน Capture รูป RT ข้อความไปลงใน Facebook อันนี้หยุดไม่อยู่จริงๆ เพราะเป็นกลางวัน ผลคือน้องคนนั้นดังในชั่วพริบตา มีคนมา Follow มาด่าซ้ำอะไรต่างๆนานา น่าสงสารจริงๆ
4. มีใครที่ไหนก็ไม่รู้ ป่าวประกาศ Pin BB ของแม่มด ผลสุดท้ายคือ มันไม่ใช่ Pin BB ของแม่มดคนนั้นจริงๆ แต่เป็นคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ซวยไปอีก

จะเห็นว่า ทิศทางของข่าวเริ่มไม่วิ่งเข้าหาข้อเท็จจริงเพราะมีอคติเรื่องชนชั้นเข้ามาเกี่ยวข้อง

มีบล็อกจาก @yokekung พูดถึงประเด็นนี้เหมือนกันครับ ค่านิยม ความคาดหวัง ประเด็นกรณีรถเก๋งซีวิคชนท้ายรถตู้
และเว็บดราม่าจาก @jarpichit เจ้าเก่า รวมพวกรูปภาพไว้ด้วย
สำหรับผู้ที่อยากวิเคราะห์สภาพรถอย่างละเอียดทั้งสองคันเชิญที่ภาพถ่ายโดย ทีมศูนย์วิจัยและพัฒนาการจราจรและขนส่ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ลง facebook โดย @Noppatjak

วันที่ 4

RT @yokekung: ข้อมูล twitter เมื่อวานนี้
tag ที่มีการพูดมากสุด: #ihatepraewa
คนที่ถูก mention มากสุด: @PUREloveNUT
คำ/วลีที่ถูกพูดถึงมากสุด: แพรวา

fwd mail ว่อน

– มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน เป็นเก้าคน

– คุณแม่ของแพรวาออกมาพูดตอนเช้า โดยให้ลูกสาวรับโทษถ้าผิดจริง

– ตอนนี้ย้ายโรงพยาบาลเพราะถูกขู่ฆ่า

– รถคันนั้นเป็นรถของเพื่อน ไม่ใช่รถของครอบครัว น้องเอามาขับเอง

– ตอนนั้น BB บอกเพื่อนที่เป็นเจ้าของรถ CIVIC

– หลังจากมีการพูดแล้ว กระแสเรียกให้ออกมารับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของประกันต้องออกมาก่อน

– มีการดึงเข้าการเมืองเรื่องชนชั้นหนักขึ้น ทำให้คนที่โจมตีแพรวาไม่ค่อยพอใจ และยังเลี่ยงที่จะใช้คำว่าสองมาตราฐานอยู่

– fanpage ไม่ชอบแพรวา 217,000 ณ เวลา 16:30 น

– มีการล็อคไม่ให้โพสรูปโดยคนทั่วไปแล้ว สามารถโพสได้โดย admin เท่านั้น

– มีคนอยากให้ แพรวา ฆ่าตัวตายตามคนที่เสียชีวิตไปมากกว่า

– กระแสในทวิตเตอร์เริ่มมีความเห็นว่า “บางอย่างก็เว่อร์เกินไป” คนในทวิตเตอร์หลายคนที่ด่าว่าคนขับรถเก๋งในวันที่ 2 เริ่มใช้คำพูดที่แสดง Maturity มากขึ้น จะเห็นว่า twitter เวลาไปเร็วกว่า facebook อย่างมาก คือข่าวเร็วกว่า โกรธเร็วกว่า แต่ซึมซับความรู้สึกได้เร็ว รับความจริงจากหลักฐานได้เร็ว ทำให้เข้าสู่จุดที่เหมาะสมได้เร็วกว่า ในขณะที่ facebook เต็มไปด้วย “สิ่งแวดล้อมของคนรู้จัก” ที่มีความคล้ายคลึงกัน กระแสจึงไปไกลกว่า และหน้า fanpage คนที่ “คิดต่าง” จะไม่กด Like จึงไม่สามารถเข้าไป Brake กระแสได้

สรุป

คุณแม่ของแพรวาเข้าไปขอโทษผู้ที่เป็นญาตของผู้เสียชีวิตทุกคน หลายคนเริ่มให้อภัยครับ
แต่ใน fb ยังแรงๆกันอยู่ http://on.fb.me/fvS7fF อย่างไรรอสรุปข่าวอีกครั้งนะครับ

มีคอมเม้นท์ที่น่าสนใจคือ

ทำไมกระแสถึงแรง นั่นเพราะคนต้องการความเท่ของข้อความแรงๆให้คน Like
ทำไมกระแสถึงแรง นั่นเพราะคนต้องการความเท่ของข้อความแรงๆให้คน Like