ทดสอบ 450D

ทดสอบ 450D โดย พัชร
ผมเองใช้กล้อง CANON EOS รุ่น Entry level มาโดยตลอดครับ ตั้งแต่ 300D ราคาเกือบห้าหมื่นแรกๆ
จนมาถึง 400D เสร็จแล้วด้วยความโชคไม่ดีรถก็ถูกทุบกระจกขโมยกล้องไปพร้อมกับเลนส์ 70-200 f2.8L
และ 17-40 F4L -_-” ( ใครเจอกล้อง eos 400D serial 21351041 บอกด้วยเน่อครับ )

หลังจากที่ได้ซื้อกล้อง Canon EOS 450D มาจาก Digital2home ผมก็จัดการ review ทันทีครับ
450D ตัวนี้ออกสู่ตลาดโลกมาตั้งแต่ต้นๆปี 2008 ทำให้หลายๆคนเกิดคำถามว่า จะซื้อ 400D ดีหรือ
450D ดี , จะอัพเกรดจาก 400D เป็น 450D คุ้มหรือไม่ซึ่งผมคิดว่าส่วนตัวแล้ว สำหรับผู้ที่จะซื้อ
ช่วงนี้ก็ไม่ต้องคิดแล้วครับ 450D เลย แต่ถ้าผู้ที่มี 400D อยู่และใช้แล้วไม่ค่อยติดปัญหาอะไรก็ไม่
ต้องเปลี่ยนหรอกครับ บางคนก็เริ่มเทียบกับ 1000D (ซึ่งเหมือนกับ canon เอา 400D มาทำรุ่นใหม่)
แต่ผมคิดว่า ราคาของทั้งสองรุ่นนี้ตอนนี้ต่างกันไม่มากนะครับ 450D น่าจะให้ความประทับใจที่เหนือกว่า
ตัวผมเองเคยใช้ 400D และมีปัญหากับการโฟกัสเมื่อใส่เลนส์ 50mm f1.8II (ซึ่งเป็นเลนส์ยอดนิยมราคา
ถูกของชาวหนอน) พอจะซื้อ 1000D ก็กลัวจะมีปัญหาเช่นกันเพราะว่ามันมีสเป็คค่อนข้างเหมือน 400D มาก
ไปหน่อย (ถึงแม้จะเปลี่ยนชิปเป็น DIGIC III Processor แล้วก็เถอะ) และผมก็ได้ทดสอบแล้วว่า 450D
มันไม่มีปัญหาในการโฟกัสวัตถุไกลๆเมื่อใช้กับ 50mm f1.8 แล้วครับ !

สำหรับสเป็คกล้องโดยทั่วไปมีดังนี้ครับ

450D

New ! เซ็นเซอร์ CMOS 12.2 ล้านพิกเซล
New ! ประมวลผลด้วยชิป DIGIC III Processor
New ! Live view
Improved ! ระบบออโต้โฟกัสเซ็นเซอร์ 9 จุด
ความเร็วชัตเตอร์ 1/4000-30 วินาที
ความไวแสง ISO 100-1600
Improved ! ถ่ายภาพต่อเนื่อง 3.5 fps 53 ภาพสำหรับไฟล์ JPEG และ 6 ภาพสำหรับ RAW Images
New ! จอมอนิเตอร์ LCD 3.0 นิ้ว 230,000 พิกเซล แถมเลือกสีได้ด้วย 4 แบบ
New ! เปลี่ยนมาใช้ SD/SDHC Card
Improved ! Viewfinder ใหญ่ขึ้น
New ! แบตเตอร์รี่รุ่นใหม่ ความจุสูงขึ้น LP-E5 ความจุสูงขึ้นเป็น 1080 mAh ถ่ายได้ถึง 500 ภาพ
New ! ใช้กับ Battery Grip รุ่นใหม่ BG-E5
New ! เลนส์ kit ติดกล้องมี Image Stabilizer ด้วย ( เย้ )

ซึ่งความต่างที่สำคัญระหว่าง EOS 450D และ EOS 1000D ก็คือ ความละเอียด (12.2 vs 10.0M)
การถ่ายต่อเนื่อง ( 3.5 vs 3.0 fps ) , มีระบบวัดแสงแบบเฉพาะจุด (spot metering) ,
ขนาดจอ LCD ใหญ่สะใจจนทุกคนทัก ( 3นิ้ว vs 2.5 นิ้ว ) ที่เหลือก็ไม่ได้สำคัญอะไรครับ แต่การถ่ายรูปโดย
ปกติผมจะถ่ายที่ความละเอียดสูงสุดอยู่แล้วครับ เพราะภาพที่ได้จะเนียนดีถ้ามาลดขนาดทีหลัง
และการทำงานสิ่งพิมพ์นั้นตามประสบการณ์ของผมจะเลือกใช้กล้องที่มี resolution มากกว่า 10M
ทำให้การตัดสินใจซื้อ 450D กับ 1000D ของผมง่ายมากขึ้นครับรายละเอียดแบบละเอียดๆดูที่นี่ครับ 450D
การรีวิว หรือ ทดสอบ 450D ครั้งนี้ผมจะเน้นเป็นการใช้งานและความรู้สึกที่ได้จากภาพทั่วไปนะครับ
ว่าถ่ายแล้วให้อารณม์เป็นอย่างไรบ้าง ผมจะไม่เน้นสเป็คเท่าไหร่เพราะ 1.การทดสอบตาม spec นั้น
dpreview ทำได้ดีและละเอียดมากแล้ว และ 2. สเป็คไม่ได้เป็นตัวบอกความสวยของภาพหรือการใช้งานจริงเท่าไหร่
ครับ เช่นกล้องที่ให้ภาพคมชัดมากๆ (แบบ sony) คนไม่ชอบก็คือไม่ชอบอะ อาจจะบอกว่าคมไปถ่ายคน
แล้วเห็นสิวชัดจัง หรือกล้องที่ให้สีเที่ยงตรงสุดๆ บางคนก็บอกว่า สีมันจืดจัง ไม่สะใจเลย …
ปกติผมเองจะเป็นคนที่ชอบกล้องขนาดเล็กครับ เพราะว่าพกสะดวก
และ practical ในการเดินทางกว่า เวลาไปถ่ายเพื่อนๆก็ดูไม่เอิกเกริกดี เพื่อนๆดูจะ relax มากกว่า
ผมเองชอบถ่ายภาพบุคคลอยู่แล้ว และบางครั้งหากบริษัทมีการถ่ายภาพผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีการ
เข้มงวดเรื่องคุณภาพของภาพกันมาก ก็สามารถเลือกใช้โหมด raw files เพื่อมาปรับแต่งใน macintosh ต่อครับ
ถ้าจะ เปรียบเทียบกล้อง สำหรับ 450D นั้นมีน้ำหนักเบากว่า 400D กันอยู่ประมาณ 75 กรัม
แต่ความรู้สึกจากการจับที่ กริปนั้นดีกว่า คือจับได้ถนัด จับนานๆไม่เมื่อยมือเหมือน 400D
อาจจะเพราะกริปและกล้องมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย และวัสดุที่ใช้มีลักษณะที่สากกว่าด้วย
จากภาพนี้ใช้กล้องป๊อกแป๊กของเพื่อนถ่ายนะครับ และติดเลนส์ 85mm f1.8 ด้วย ดูเลนส์ใหญ่ไปเลย

450D

จากมุมบน กริป grip จับถนัดกว่าเดิม (แต่ก็เทียบ 50D ไม่ได้) วัสดุที่ใช้มีลักษณะแบบผิวยิงทรายต่าง
จาก 400D ที่ดูเรียบลื่นกว่า เปรียบเทียบกล้อง ดูแน่นหนากว่า 400D ตรงบริเวณที่วางนิ้วโป้งมีการ
เพิ่มยางรองนิ้วเข้ามา เพิ่มความมั่นใจและความรู้สึกด้านคุณภาพให้ต่างจาก 1000D

450D
ตัดหลอด LED สีเขียวที่แสดงสถานะออกไป และแทนที่ด้วยปุ่มกดเลือก ISO (ใกล้ๆ dial เลือกโหมดด้านบน)
ซึ่งสามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ระหว่างการถ่ายรูปโดยไม่ต้องมามองจอ LCD เหมือน 400D

450D

จากด้านหลังจะเห็นว่า canon ได้แยกปุ่มต่างๆออกมาต่างหากเยอะแยะไปหมด จากเดิมที่ปุ่มๆเดียวสามารถ
เลือก function ได้หลายอันใน 400D ก็กลายเป็นหลายปุ่ม ทำให้ user เก่างงๆในช่วงแรกได้ครับ
จอขนาดใหญ่พร้อม function Live view ที่ทุกคนตื่นเต้น ฟังก์ชั่นนี้เวลาใช้งานก็กดปุ่ม set กระจกสะท้อน
ภาพและม่านชัตเตอร์จะถูกยกขึ้น ทำให้ LCD แสดงภาพได้ในขณะนั้น โดยที่เราสามารถปรับแต่งค่าต่างๆ
เช่น speed และ รูรับแสง (f-stop) เพื่อดูสิ่งที่จะแสดงในภาพได้ และนอกจากนี้เราก็สามารถที่จะถ่ายมุม
ที่ถ่ายยากๆได้ดี เช่นมุมถ่ายที่ต้องชูกล้องเหนือหัว หรือมุมถ่ายที่ติดพื้นดินได้เหมือนกล้อง campact ทั่วไป
นอกจากนั้นเรายังสามารถกดซูมภาพเพื่อเช็คโฟกัสในบริเวณที่ต้องการได้อีกด้วย

450D

จุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกอย่างคือ เลิกใช้ CF card และมาใช้ SD แทนซึ่งดีมากเลยครับเพราะผม
ไปเที่ยวต่างประเทศแค่พก SD สำรองใส่กระเป๋าตังค์ก็สบายแล้ว ส่วนคนที่มี CF จำนวนมาก
เพราะใช้กล้องรุ่นเก่าก็ไม่ต้งอเสียดายหรอกครับเพราะว่าเดี๋ยวนี้ SD ก็ไม่แพงมาก (ผมซื้อที่
digital2home แถม SD 2G ด้วยอีกต่างหาก) และ battery นั้นใช้ก้อนใหญ่ที่เก็บไฟได้มากกว่า
400D เพราะว่าต้องใช้ไฟเลี้ยงระบบ Image stabilizer หรือ IS ของ lens 18-55mm ด้วย
สรุป ใช้ accessories ร่วมกันกับรุ่นเก่าๆไม่ได้เลย
สำหรับราคาวันซื้อ เกินสองหมื่นไปน้อยมากครับ ^^

การใช้งาน/ภาพ

character ภาพที่ถ่าย ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของ canon เต็มที่ครับ สำหรับสาวกหนอน
คงรู้ดีว่ามันจะมีอารมณ์ของ “สีเหลือง” ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแทรกอยู่ทุกภาพ คล้ายกับ
ฟิลม์ kodak เมื่อสมัยก่อน (ซึ่งหลังๆมานี้ nikon ได้พัฒนา อารมณ์ของ”สีเขียว” ชัดเจนขึ้น
ทำให้มีสาวกบางคนแอบปันใจเปลี่ยนค่ายเพราะว่าถ่ายคนแล้วผิวเป็นสีชมพูสวยกว่าครับ จะว่าไป
ก็คล้ายๆฟิลม์ฟูจิ นั่นเอง) แต่ภาพทั้งหมดนั้นมี noise ต่ำ ผลมาจากภาพที่มี resolution สูงขึ้น
ทำให้มี s/n ratio ( signal to noise หรืออัตราส่วนภาพต่อสัญญาณรบกวน) ดีขึ้น

นอกจากนี้ยังมีลูกเล่น noise reduction อีกนะครับ ซึ่งจะทำให้พื้นที่ๆเป็นสีพื้นเรียบมีน้อยส์ต่ำลง
แต่ตรงขอบภาพยังคงความคมชัดไว้ได้พอสมควร (ปกติ function noise reduction มักทำความให้คมชัดลด)
และภาพมีความคมชัดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเพราะว่าเลนส์มีระบบ Image stabilizer นั่นเอง (canon
มักมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีกว่า nikon อยู่ 1ขุมเสมอเมื่อเทียบรุ่นใกล้เคียงกัน)
อย่างไรก็ตามถ้าถ่ายด้วยโหมด default ของ 450D ภาพก็จะออกมาสไตล์ canon คือ ชัดแบบนุ่มๆ

450D

^จากภาพจะเห็นว่า สีฟ้าของท้องฟ้ายังไม่ค่อยฟ้ามากเพราะถูกรบกวนด้วยคาร์แร็คเตอร์อมเหลือง
บุคลิกเฉพาะ canon นั่นเอง ภาพนี้ออกโทนอุ่น ISO400 ถ่ายด้วยการเปิดหน้ากล้องกว้างสุด f3.5
ของเลนส์ kit 18-55mm IS จะเห็นว่าขอบภาพสี่มุมมืดลงชัดเจน ซึ่งน่าจะเป็นข้อบกพร่องของเลนส์
ตัวนี้ แต่ถ้าปรับรูรับแสง เป็น 5.6 ขึ้นไปอาการนี้ก็จะหายไปครับ
( หมายเหตุ ภาพทุกภาพถ่ายด้วยโหมด fine ใหญ่สุด ของ jpegครับ และ export ด้วย iphoto

ของ Mac )

450D

450D
^ระบบวัดแสงของแคนนอน 450D รุ่นนี้ให้ความรู้สึกที่ไม่วูบวาบมากเหมือนกับ 400D ซึ่งก็น่าจะฉลาดขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ระบบการวัดสียังไม่ได้แสดงบทบาทชัดเจนเหมือนกับ Nikon รุ่นสูงๆ ทำให้การถ่ายภาพ
สีเข้มอย่างเช่นภาพด้านบนในครั้งแรกมีปัญหาสว่างไปและไม่ค่อยมีสีน้ำเงินเข้ม จึงต้องแก้ด้วยการชดเชยแสง
ลดลง 1stop และปรับ white balance ให้ถูกต้องตามสถานการณ์ด้วยนะครับ

450D

^ระบบ image stabilizer อันลือชื่อของเลนส์ canon ก็ถูกนำมาใช้กับ เลนส์ kit 18-55mm IS ตัวนี้ด้วย
ประโยชน์ของมันไม่ได้แค่ช่วยผู้ที่ถือกล้องให้ถ่ายในที่มีแสงน้อยลงได้อีก2-3 stop เท่านั้น แต่ยังทำให้
สามารถเล่นภาพที่ใช้ speed ต่ำในสภาวะแสงปกติอย่างเช่นภาพด้านบนได้อีกด้วยครับ
ส่วนผู้ที่ถือกล้องและกดชัตเตอร์อย่างถูกวิธีอยู่แล้วยังทำให้มีโอกาสถ่ายรูปในที่มืดระดับในผับได้ชัดเลยครับ

450D

^การถ่ายรูปโดยใช้ ISO สูงๆให้ผลของเกรนเป็นที่น่าพอใจครับ จากภาพผมใช้ ISO1600 และ
จัดการปรับโหมดสีเป็นแบบ User กำหนดเอง (กำหนดได้ 3 user) โดยให้ saturation สีสูงๆ
แต่ก็ยังให้ผลเป็นที่น่าพอใจ ถ้ารูปถ่ายออกมาค่อนข้างสว่างแบบรูปด้านบน พอย่อลงมาแล้วจะไม่ค่อย
เห็นเกรนเลยครับ จากการสังเกตของผม เกรนของสีเขียวดูน้อยกว่าเกรนสีแดงกับน้ำเงินอยู่นิดๆ
และ 450D ได้แยกปุ่มปรับโหมดสีออกมาต่างหากอีก (ด้านล่างของปุ่ม set) ทำให้การปรับสีสามารถ
ทำได้ตลอดเวลาขณะถ่ายรูป ซึ่งผมชอบมากจริงๆ

การแยกสีของ canon eos 450D ตัวนี้ดีขึ้นมาก ถึงจะไม่ได้เด็ดขาดจนแยกความหยาบของผิววัตถุ
เหมือนพวก 5D ได้แต่ก็ทำได้ดีแล้วครับ ผมคิดว่าในจุดนี้พัฒนามาจาก 350D อย่างเห็นได้ชัดมาก

ูู

^จากภาพจะเห็นว่า 450D แยก สีส้มมาก ส้มน้อย เหลือง และ เหลืองแก่ออกมาได้พอใช้
ที่สำคัญมันยังคงความสดอิ่มของสีไว้ได้อยู่ด้วยครับ

450D

^สำหรับสีแดงกับสีบานเย็น (แดงน้อย) นั้นแยกยากพอสมควรแต่ก็ยังพอแยกได้นะครับ
กล้อง 450Dตัวนี้มีแนวโน้มถ่ายแล้วดูสิ่งของนั้นๆใหม่ขึ้นตามความเห็นของผมนะ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร
อาจจะเป็นทีระบบ convert jpeg ของกล้องมันเน้นขอบสันภาพชัดเจนแต่สีที่ใกล้เคียงกันมากเช่นสีแดง
ยังดูยากเล็กน้อยเลยทำให้ texture พื้นผิวของของเก่าๆไม่ค่อยชัด แต่พวกเงาต่างๆบนตัววัตถุจะชัด

450D

^ระบบ live view ช่วยให้ผมขับไปถ่ายไปได้อย่างรวดเร็ว (ห้ามเลียนแบบนะจ๊ะ อันตราย)
จากรูปรถเมล์สุดเก่าที่ไม่รู้ยังวิ่งได้ไง เค้าเอามาวิ่งบนถนนอยู่ๆ ดูๆแล้วแหนบคงหักไปแล้วล่ะครับ
แต่พอถ่ายออกมากลับไม่ค่อยเก่ามากเหมือนที่เห็น

450D

^ แต่พอถ่ายรถปกติ จะเห็นว่ามันแว๊บๆดูใหม่ไปหมดเลยครับ ทั้งๆที่หลายๆคันก็เปียกฝนอยู่
ผมชอบการถ่ายทอดความเงาพวกนี้ สีรถแท๊กซี่คันกลางนี่ ถ่ายออกมาได้สีเหลือบชัดเจนดีด้วย

450D

450D

^(แว๊บ อีกทีไปโผล่ที่ มาเก๊าครับ) การถ่ายรูปที่มีบริเวณสว่างทำได้ดีกว่ากล้องรุ่นเล็กที่ผ่านมา ภาพนี้ผมถ่าย
Apple shop ใน venetian ซึ่งค่อนข้างสว่างด้วยโหมดวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพที่ผมชอบ (ISO 400)ผลก็คือภาพส่วนที่
ไม่สว่างก็ยังพอมองเห็นครับ ในขณะที่ถ้าเป็น 400D หรือเก่ากว่าจะมืดไปเลยเพราะโดนจุดที่สว่างหลอกเครื่องวัดแสง
แต่ถ้าเป็นภาพที่มีความเปรียบต่างที่มีสีดำมาก ภาพที่ได้มักจะออกอาการ over exposure (ส่ว่างเกินไป)
ซึ่งเป็นบุคลิกที่ตรงกันข้ามกับกล้อง entry level ที่ผ่านมาของ canon ทั้งหมด

450D

^สำหรับแสงแดดแรงๆในต่างประเทศนั้น 450D รุ่นนี้ยัง dynamic ไม่เพียงพอทำให้พื้นที่มีความแตกต่างของแสงมากๆ
(อย่างเช่นพื้นถนนที่ได้รับแสงในภาพ)รายละเอียดหายไปเลยครับ อันนี้ต้องรุ่นสูงๆหน่อยถึงจะทำได้ดีนะ…

450D
ตารางจาก dpreview แสดงให้เห็นว่า 450D มีการแสดงรายละเอียดในที่มืดได้ดีกว่า 400D
และผู้ที่แสดงรายละเอียดในที่ส่ว่างได้ดีที่สุดเป็น sony A350

450D

^อีกคร้้ง สีทองๆเงาๆนั้นถ่ายทอดได้ดี

450D

^โหมดสีจัดให้สีสะใจดีแต่คงสไตล์ canon อยู่คือสีเขียวจะมีความเหลืองปนอยู่ด้วยนั่นเอง
อย่างไรก็ตามถึงแม้จะปรับให้จัดสุดๆแต่ตัวดอกไม้ก็ยังคง dynamic สีได้ดี ไม่จัดจนมั่วรอยต่อสีเหมือนเวลาเราปรับ
saturation ในคอมพิวเตอร์

450D

^auto WB ทำไมออกส้มจัง -_-”

450D

^ปรับ WB เป็นแบบ หลอดใส้ (incandescent light) แล้ว ค่อยยังชั่วหน่อย

ภถจก

^โหมด Auto white balance ไม่ได้ทำงานสมชื่อโหมด จาก chart dpreview กับที่ผมถ่ายมาก็เหมือนกันคือ
การถ่ายด้วย WB แบบ auto มันไม่ได้ปรับแสงให้กลางอยา่งที่ควรจะเป็น สันนิษฐานว่าช่างกล้องมือสมัตรเล่น
ส่วนใหญ่อยากได้สีแบบที่ตาตัวเองเห็นมากกว่า เช่นตอนเย็นๆก็อยากจะเห็นสภาพแวดล้อมเป็นสีส้มๆมากกว่า
แบบนี้จะมี Auto WB ไปทำไมเนี่ย ! 😀

450D

450D

^ระบบ flash ติดกล้องนั้นดีมากครับ แฟลชยกสูงไม่มีมุมตกกระทบที่ทำให้ตาแดง และมีการปล่อยแสงออกมาดีมาก
โดยเฉพาะการ fill กับแสงธรรมชาติและโหมด auto WB ให้ผลดีกับแฟลชมากกว่า

450D

^ส่วนการตั้งเวลาถ่ายนั้นมีลูกเล่นเพิ่มมาด้วยโดยเราสามารถกำหนดได้ว่า พอครบเวลาแล้ว
จะให้ถ่ายกี่รูป ซึ่งดีมากสำหรับการถ่ายภาพหมู่คนจำนวนมากเลยครับ แบบว่าเผื่อหลับตาน่ะครับ

ภถจฏ

^สีตุ่นถ่ายยังไงก็ยังตุ่น คือถ้าสภาวะอากาศไม่ดี ถ่ายรูปออกมายังไงก็ยังสีจืดๆครับ ภาพแบบนี้บางที
กล้องคู่แข่งจะถ่ายสวยกว่า แต่ก็อาจจะไม่สมจริง แล้วแต่ความเห็น

450D

^ ลักษณะ flare ของเลนส์ kits ดูได้กลางภาพพอดีครับ flare ไม่สวยเท่าไหร่นะ ตัวผมเองกลับชอบ
flare ของ 50mm f1.8 II ที่สุด (ชอบมากกว่า 50mm f1.4)

สรุปข้อดีข้อเสียของ Canon EOS 450D ได้ดังนี้ครับ

ข้อดี

-Resolution โดดเด่นมาก ในโหมด Raw สามารถใช้งานได้ในระดับ Studio มืออาชีพ
-ภาพให้โทนสีที่ดี สามารถนำมา process ต่อได้มาก
-ให้การรับค่าความสว่างที่กว้าง ( Dynamic range )
-ระบบ Noise Reduction ใช้งานได้ดี
-ช่องมองภาพดูใหญ่ขึ้น
-Function ต่างๆ และระบบวัดแสงทำให้กล้องมีความใกล้เคียงกับ 40D อยู่มาก
-การตอบสนองพร้อมถ่ายที่รวดเร็วมาก
-มีการแสดงค่า ISO ในช่องมองภาพ ทำให้ไม่ต้องละสายตาเวลาตัดสินใจ
-จอใหญ่
-Lens Kits มี Image stabilizer
-กล้องตัวนี้สร้างมาดีและดูลงตัวในทุกด้าน เหมาะกับผู้ที่เคยใช้กล้อง EOS 300D,350D หรือ 400D มาก่อน

ข้อเสีย

-White Balance ตั้ง auto แล้วทำหน้าที่ไม่ดี โดยเฉพาะกับแสงกลางคืนและแสงจากหลอดใส้
-ในที่ค่าแสงซับซ้อน 450D มีแนวโน้มให้ภาพออกมาสว่างเกินไป ( Over Exposure )
-โหมด jpeg ปกติ ไม่เหมาะกับงานใน studio หรืองานที่ต้องใช้ความเที่ยงตรงของภาพสูง
เพราะว่ารูปมีการเปลี่ยนแปลงหลังการ convert jpeg เข้าใจว่าน่าจะทำให้รูปดูเตะตาขึ้นเพื่อการตัดสินใจซื้อ
-การถ่ายในที่มืดต้องใช้ flash ช่วยในการ focus ไม่มีแสงช่วยโฟกัสโดยเฉพาะ
-บางครั้งมีโฟกัสวืดบ้างเหมือนกัน ระบบโฟกัสหลายจุดแบบ auto ไม่ค่อยน่าใช้เพราะเดาไม่ถูก
-Live view ต้องทำความเข้าใจระบบโฟกัสเล็กน้อย ใช้ครั้งแรกๆจะงง
-Lens kits ยังให้คุณภาพภาพที่รูรับแสงกว้างได้ไม่สมกับคุณภาพของ CMOS

ขอให้สนุกกับการใช้กลอ้งนะครับ 🙂