follower เพิ่ม 7000 คนใน 1 เดือน /อนาคตของสื่อ? : กรณีศึกษา @inattt

บทความนี้เป็น ภาค 2 Update จากบทความเก่าที่เป็นตัวหนังสือสีน้ำตาลด้านล่างนี้ครับ สำหรับผู้ที่อ่านแล้วสามารถ skip ภาค 1 ไปได้เลย

follower evolution ภาค 1

สืบเนื่องจาก @inattt เข้าไปในม็อบเสื้อแดงที่ราชประสงค์และทวีตรูปพร้อมความรู้สึกส่วนตัวประมาณครึ่งวัน และตอนท้ายๆมีคนจับได้คือ @dumbbellism ทำให้ต้องหลบออกมาอย่างตื่นเต้นครับ มีคนดังใน twitter หลายคนสนใจและ mention ถึงอย่างเป็นห่วงด้วยเช่นกัน เช่น @dc_danai @iwhale @macroart เมื่อมีคนสนใจ follower เลยเพิ่มขึ้นโดยที่ @inattt เองก็ไม่ได้คาดคิดเหมือนกัน

จำนวน follower ของ @inattt เพิ่มขึ้นเป็นพันภายในเวลาไม่กี่วัน
จำนวน follower ของ @inattt เพิ่มขึ้นเป็นพันภายในเวลาไม่กี่วัน

เหตการณ์ลักษณะนี้ไม่เคยมีมาก่อนเพราะส่วนใหญ่คนที่เคยเข้าไปในกลุ่มม็อบ (เช่นโดยผมจาก blog นี้เมื่อเดือนก่อน) มักจะรายงาน fact ไม่ได้พูดความรู้สึกของตนเองออกไปนั่นเอง และ @inattt เองก็ทวิตมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอ่านสนุก นี่อาจเป็นสเน่ห์ของ twitter ที่ต่างจากการนำเสนอข่าวโดยนักข่าวครับ

รวม tweet @inattt ในช่วงอยู่ที่ราชประสงค์โดย @iannnnn

อย่างไรก็ตามสามารถพิจารณาดู timeline ทั้งหมดของ @inattt ได้ที่เว็บซึ่ง @iannnnn ได้รวบรวมมาไว้ก่อนหน้าผมแล้ว คลิกที่ลิงก์ด้านล่างครับ

http://www.lab.in.th/23/mention-inattt-2010-04-16

ช่วง follower เพิ่มมาก : capture ตอนถูกจับได้

timeline @inattt
timeline @inattt
timeline @dumbbellism
timeline @dumbbellism

อย่างไรก็ตาม ทุกคำใน twitter จะเป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องรับผลของมันในอนาคต และการสร้างศัตรูที่มี Profile น้อยกว่านั้นก็ต้องคิดให้ดีเช่นกันเพราะผู้ที่มี Profile เยอะกว่า (เช่นมี Avatar เห็นหน้าชัดเจน ต้องไปร่วม Event ในที่และเวลาชัดเจน) เปรียบเหมือนคนที่อยู่ในที่แจ้งนั่นเอง

หนังสือลง @inattt ทวืตติดขอบเวทีเสื้อแดง ภาพโดย @keptsatang
หนังสือลง @inattt ทวืตติดขอบเวทีเสื้อแดง ภาพโดย @keptsatang

follower evolution ภาค 2

หลังจากนั้น @inattt ได้รายงานข่าวอีกครั้งหนึ่งในเหตการณ์ผู้ชุมนุมในช่วงที่เริ่มเผายางและมีประกาศตัดน้ำไฟ และมีบรรยากาศในการรายงานที่ตื่นเต้นมากเพราะเหมือนอยู่ในเหตการณ์จริงๆ ทำให้จำนวนผู้สนใจติดตามมีมากขึ้น เนื่องจากสื่อส่วนใหญ่จะรายงานข่าวได้ช้าเพราะต้องการการกรองเล็กน้อย และคนต้องการข่าวที่มี “ทิศทาง”ตรงกับจริตของตน และต้องการความด่วน ถึงแม้ว่าจะมีผู้ที่อยู่ในบริเวณที่ชุมนุมหลายคนแต่ส่วนใหญ่ไม่ได้รายงานในลักษณะเดียวกับ @inattt เพราะบางครั้งอาจเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมรายงานซะเอง

ในช่วงวันที่ 14 พค follower เพิ่มขึ้นเนื่องจากการรายงานข่าวอีกครั้ง
ในช่วงวันที่ 14 พค follower เพิ่มขึ้นเนื่องจากการรายงานข่าวอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม การรายงานลักษณะดังกล่าวเป็นที่น่าเป็นห่วงต่อสวัสดิภาพของ @inattt เช่นเดียวกันเนื่องจาก นัทไม่ได้สังกัดสื่อใดและมีการใส่ความคิดเห็นและอารมณ์ลงไปในสิ่งที่รายงานแบบเฉพาะตัวจึงมีผลกระทบต่อคนบางกลุ่มค่อนข้างมากและไม่มีคนสนับสนุนด้านหลัง มีโทรศัพท์เตือนจากผู้หวังดีให้นัทระวังตัวไว้เช่นกันเพราะถูกจับตามองอยู่ ซึ่งผมก็ได้เตือนไปต่อยัง @inattt เพื่อที่จะพิจารณาเรื่องดังกล่าวไว้โดยบอกว่า @inattt นั้นอยู่ในโลก Social Media ซึ่งเป็นที่แจ้งในขณะที่คนที่อยู่ในที่มืดเรามองไม่เห็นจึงน่ากลัวต่อสวัสดิภาพตนเอง

ภาพรวมในระยะเวลา 3 เดือนของ @inattt การเพิ่มของ follower ภาค 1 อยู่วันที่ 18-4-10
ภาพรวมในระยะเวลา 3 เดือนของ @inattt การเพิ่มของ follower ภาค 1 อยู่วันที่ 18-4-10 ภาค2 วันที่ 14-5-10

หลังจากการเตือน นัทได้เปลี่ยน Avatar ซึ่งเป็นรูปตนเองออกและใส่รูป Graphic เข้าไปแทน นำลิงก์เว็บไซต์ของตนเองออกเพราะมีการอ้างอิง และเพื่อไม่ให้กระทบต่อวงดนตรีจึงนำคำว่า #iHear Vocalist ออกไปด้วย เป็นการลด identify ของตนเองเพื่อความปลอดภัยนอกจากนั้นยังเปลี่ยนวิธีการรายงานจากใช้คำพูดของตนเอง เป็นการรายงานจากวิทยุสื่อสารของหน่วยกู้ภัย ซึ่งให้ข่าวสารที่รวดเร็วและเป็นกลางมากกว่าเช่นกัน ในสถานการณ์ดังกล่าวโทรทัศน์ไม่สามารถเสนอข่าวด้านเหตด่วนเหตร้ายได้ทันท่วงทีทำให้การรายงานของ @inattt มีประโยชน์มากทั้งการเตือนภัย (เช่นรถน้ำมัน”อาจ”โดนยึด ซึ่งข่าวจริงเสนอไม่ได้เพราะยังไม่ได้เกิดขึ้น) และเป็นช่องทางที่คนธรรมดาไม่ทราบ อย่างไรก็ตามการรายงานยังน่าสนใจและน่าตื่นเต้นเช่นกัน หลายคนคิดว่า @inattt อยู่หน่วยกู้ภัยด้วย โดยเฉพาะวันที่ 14 – 19 พค นั้นเป็นช่วงที่มีการกดดันและปราบปรามผู้ชุมนุม follower @inattt เพิ่มขึ้นถึง 6,000 คนจากความต้องการข่าวสาร ! ซึ่งแซง @iannnnn @macroart @sugree รวมถึงนักข่าวอย่าง @jin_nation และกำลังจะแซง @iwhale และ @Neaw_NBC ในไม่ช้า

จำนวน mention ในวันที่ 19 นั้น @inattt รับอยู่ 3,438 mention แซงนักข่าวหลายคน
จำนวน mention ในวันที่ 19 นั้น @inattt รับอยู่ 3,438 mention แซงนักข่าวหลายคน

จำนวน mention ของ @inattt ขึ้นถึง อันดับหนึ่งในวันที่ 17 พค แซงแม้กระทั่ง @suthichai แต่ผมไม่ได้ capture ในวันดังกล่าวไว้ครับ สำหรับในวันที่ 19 เป็นอันดับ 4 ดังภาพด้านบนโดยมี 3,438 mentions และในวันนี้ ( 22-5-10 ) followers ของ @inattt มากกว่า 9,000 คนแล้ว

มุมมองด้านสื่อ กับกรณีศึกษา @inattt

1. twitter ทำให้ความฉับไวกลายเป็น ทรัพย์สิน

การรายงานที่ฉับไวที่สุดกลายเป็นทรัพย์สิน เพราะว่าการ retweet หรือ mention จะขึ้นอยู่กับว่าข่าวนั้นใหม่เพียงไร โดยผู้ที่นำเสนอข่าวได้ใหม่ที่สุดจะมีสิทธิถูก mention มากที่สุด ดังนั้นสำนักข่าวจะเสียเปรียบ นักข่าวอิสสระ ในกรณีความฉับไวอย่างแน่นอนเพราะสำนักข่าวแบกความรับผิดชอบของการนำเสนอข่าวผิดไว้ ทำให้ต้องใช้เวลาหาแหล่งข่าวเพื่อกรองก่อน สำหรับกรณีนี้ @suthichai ยังยอมลดเครดิตความถูกต้องของข่าวแลกกับความเร็วด้วยการ RT นักข่าวในสังกัดอย่าง @jin_nation ซึ่งนำเสนอข่าวเร็วมากแต่มีผิดพลาดด้วย เช่นกรณีจับแกนนำได้แต่ความจริงจับไม่ได้ หรือกรณีระเบิดต่างๆ

2. twitter ทำให้ Branding ของสำนักข่าวลดลงไป

นักข่าวอิสระ บางครั้งมีการรายงานเร็วกว่านักข่าวภาคสนามตัวจริง และ twitter ยังมีการเปรียบเทียบข่าวจากสำนักข่าวต่างๆทั้งด้านความน่าเชื่อถือและความเร็ว ทำให้ผู้ที่รวบรวมข่าว อาจมี Branding มากกว่าสำนักข่าวก็เป็นได้ (กรณี @js100radio กับ @thaishortnews) และสำหรับเครือเนชั่นเอง @suthichai มีการ RT และ follow @inattt ทั้งๆที่ไม่ใช่นักข่าวในสังกัดสำนักข่าวตนเอง

@markpeak เคยวิเคราะห์ไว้ว่า ถ้าเค้าอยู่ในฐานะผู้ถือหุ้นของ Nation การใช้ twitter อย่างหนักหน่วงของเครือ Nation ในขณะนี้อาจเป็นการทำลายอนาคตของ value ในการทำรายได้ของสำนักข่าวก็เป็นได้ ผมเองคิดว่ามันเป็นการถ่ายเท Value ของสำนักข่าว มาสู่ตนเองแบบปัจเจก ทำให้สำนักข่าวอาจหารายได้แบบเดิมๆไม่ได้อีกต่อไป

3. การสร้าง Value ของสำนักข่าวในอนาคต การเลือกข้างอาจเป็นภัย

น่าจะเป็นการ balance ระหว่างความน่าเชื่อถือกับความเร็วและ Bias โดยสำนักข่าว จะทำหน้าที่เป็นคน Approve ความถูกต้องของข่าวอย่างเที่ยงตรง สำนักข่าวอาจรายงานโดยมีอคติ Bias หรือความรู้สึกส่วนตัวได้ (เลือกข้างให้เข้ากับ Niche market) แต่จากกรณี @inattt จะเห็นว่า สำนักข่าว เช่น @suthichai สมมติว่าแม้มีความรู้สึกส่วนตัวในการรายงานเพียงใดก็ไม่สามารถใส่ความรู้สึก”ส่วนตัว”ที่ถูกจริตผู้เสพข่าวลงไปได้เทียบเท่ากับการรายงานข่าวจากนักข่าวอิสระอย่าง @inattt ดังนั้น การนำเสนอข่าวจึงมีข้อจำกัดในกรณีที่ผู้เสพข่าวต้องการข่าวที่ “ถูกจริต” ตนเอง ดังนั้น value ที่สามารถทำได้คือการนำเสนอข่าวอย่างเป็นกลางเพื่อเป็น reference ให้กับเหล่าผู้เสพ Social Media นั่นเอง

ตัวอย่างเช่น การรายงานโดยใช้คำว่า “เหยดดด กูเดี้ยงแน่ จะระเบิดแล้ว” หรือ “พวกนี้มันรักในหลวงจริงหรือเปล่า ทำไมทำชั่วช้าอย่างนี้” สำนักข่าวไม่สามารถทำได้ แต่นักข่าวอิสระสามารถทำได้ และผู้เสพข่าวก็ต้องการซะด้วย

follower @inattt ณ วันที่ 22 พค 2010 มีจำนวน 9,006 คน
follower @inattt ณ วันที่ 22 พค 2010 มีจำนวน 9,006 คน

ยินดีต้อนรับ @inattt นักข่าวอิสระชื่อดังคนใหม่ของไทย กับกรณีศึกษาที่ตัวแทนสำนักข่าวทุกท่านต้องจับตามองครับ 🙂