เกี่ยวกับ งานคุยสบายสไตล์ tweeple / Time Line #wawee

งาน คุยสบายสไตล์ tweeple ที่ผ่านพ้นไปภายใต้การนำของ @suthichai นั้นสำเร็จลงได้ด้วยดีครับ โดยผมจับอารมณ์ได้หลายประเด็นมากเมื่อ twitter เริ่ม Mass ตามประสาคนไทยนั่นคือใครจะมีส่วนร่วมและมีอารมณ์ร่วมกับการพลิกผันในครั้งนี้บ้าง และที่สำคัญ ใครได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง

ภาพงาน คุยสบายสไตล์ tweeple ภาพโดย @booruball

wawee-suthichai on PhotoPeach

เนื่องจากในงานดังกล่าวผมได้ตอบไปว่าไม่ว่าง แต่ทางพี่ิจิรัฏ @jitara เจ้าของร้านวาวีอารีย์ได้บอกว่าทาง #iHear น่าจะเป็นผู้เริ่มเล่นตอนต้น Event ซึ่งยังพอมีเวลา และ @hongsyok ได้ให้ไอเดียว่าผมน่าจะเริ่มเล่นแต่ช่วงบ่ายเลยเพื่อทำให้บรรยากาศคึกคักครับ ทางทีมงานทั้ง @hongsyok ( ทีม Live #beenets ) @simplywit ( sound Engineer ) และ @davedawcomm ( ทั้งทีม @davedawcomm และน้อง @simplywit คราวนี้ได้รับความอนุเคราะห์ด้านงบประมาณจาก UIH แล้วครับ ) ส่วนลำโพง Bose L1 ที่ใช้เป็นลำโพง PA สำหรับดำเนินการนั้นเป็นเจ้าของร่วมระหว่าง #wawee และ #iHear ลองดูที่มาของการ Live ที่วาวี

เนื่องจากผมต้องไปตั้งแต่ 17:00 เพราะ #iHear ต้องไปเล่นอีกที่หนึ่ง ทำให้ได้ฟังจาก @booruball ซึ่งเป็นผู้ที่ใช้ twitter แบบ “Lite” คือไม่ติด tweet มาก และใช้ twitter เพื่อบ่งบอกคาร์แร็คเตอร์ของตนเองเท่านั้น จะได้ได้ความเห็นที่ไม่หนักเกินไปแบบผมครับ

ภาพงาน โดยรวม

เล่าโดย @booruball และเสริมความเห็นของผมต่อครับ

งานเป็นสไตล์เป็นกันเอง มีเรื่องส่วนตัวมากและแหย่กันเล่นสไตล์ twitter เพราะรู้จักตัวตนของแต่ละคน ถ้าไม่ได้รู้จักกันดีก็จะรู้จักบางอย่างจาก twitter ทำให้คุยกันได้ แต่เนื่องจากไม่มีมีคนรันงานนอกจากพิธีกรแก้ไขปัญหาเองและเชิญขึ้นมาเองทำให้เรื่องเวลาจะตะกุกตะกักบ้าง ช่วงแรกๆที่ #iHear เล่นก็ไม่รู้จะให้เลิกเมื่อไหร่ (ส่วนตัวผมรู้สึกว่า iHear ช่วงแรกๆเป็นส่วนเกินตอนที่คุณ @suthichai กับ @korbsak มา อารมณ์ประมาณผู้ใหญ่อยากจะคุยกันแล้วมีเพลงรบกวนรึเปล่า) นักข่าวหญิงที่มาร่วมงานน่ารักเป็นกันเอง

การสัมภาษณ์มีสองช่วงช่วงแรกเป็นนักการเมือง ซึ่งทำให้ดึงดูดนักข่าวมาเป็นจำนวนมาก น้ำหนักในการสัมภาษณ์คุณ อภิรักษ์ และ คุณสุรนันท์มีน้อย แต่คุณกอร์ปศักดิ์และคุณพาทีพูดเยอะ ที่บอล์ประทับใจคือคุณอภิรักษ์ตอบได้แม่นว่าวันที่เริ่มเล่นเป็นวันอะไรเมื่อไหร่ในขณะที่คนอื่นจำไม่ได้ (แต่ผมเองกลับเห็นว่าผู้ที่ตอบได้แสดงว่า ตั้งใจเล่นเกินไปครับ )

@nuishow ทำหน้าที่พิธีกรได้ดีมาก เป็นมือ tweet ตัวจริงและมีความพิธีกรชั้นนำอยู่มาก เก่งและแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง เสียนิดเดียวตรงชอบปรามคุณจอมขวัญที่ไม่ชำนาญ twitter เท่าไหร่ ผู้หญิงด้วยกันเลยแอบสงสารครับ 😛 แต่คุณจอมขวัญก็วางตัวแก้ปัญหาได้ดีตลอด (ที่เพิ่งสมัครมา 72 ชั่วโมง สงสัยเพื่อรับงานนี้โดยเฉพาะ 😀 )

@korbsak จะเน้นว่า การเล่น twitter เป็นการเสียเปรียบของคุณกอร์ปศักดิ์เพราะไม่รู้ตัวตนของคนอื่น (มีประเด็นเรื่องการบ่นหมาที่บ้าน) แต่ยอมรับว่าคนที่เล่น twitter หนักๆคือตัวจริงที่มีความถนัดในแต่ละแง่จริงจังในสังคม และคนที่ tweet สร้างภาพจะค่อยๆหลุดออกมาเอง ตัวคุณกอร์ปศักดิ์เป็นคนง่ายๆสบายๆ ทวิตได้ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว Happy ต่อทวิตเตอร์เหมือนอยากมาเจอ ในทัศนะของผมคุณกอร์ปศักดิ์ และ คุณทักษิญเป็นคนที่ tweet ได้เป็นธรรมชาติที่สุดในกลุ่มนักการเมือง

@vajiramedhi ท่าน ว.วชิรเมธี มากับคำคมตลอดเวลา คำตอบของท่านค่อนข้างครอบคลุมทุกเรื่องที่อยู่บนเวทีในขณะนั้น และท่านเข้าสู่โลก Social เพราะเห็นว่าเด็กไม่ฟัง ธรรมะ แสดงว่ามีอะไรเจ๋งกว่าหรือเปล่า? ก็เลยต้องศึกษาและเข้าถึงภาษาเดียวกับเด็กเพราะธรรมะของท่านนั้นจัดว่าทันสมัยที่สุด ท่านใช้ nominee ในการ tweet และ tweet แต่ธรรมะเพื่อประชาชนโดยเฉพาะ ท่านวางตัวได้กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมมาก เป็นผู้ที่ฉลาดในการใช้คำพูด พิธีกรไม่สามารถจับท่านให้อยู่ด้วยมุกได้ ( แม้แต่พี่ @hongsyok ยังชมว่าท่าน คมคาย กว่าที่คิดไว้มาก )

@patee122 เป็นสไตล์ชอบ tweet ภาษาอังกฤษเพราะเพื่อนฝรั่งเยอะจะต่อว่า ฝรั่งไม่เข้าใจเสียงหัวเราะ 555 มีพิธีกรแซวว่าตั้งแต่คุณพาทีมาเล่น twitter เยอะมากให้รู้จักถนนหนทางมาก คุณพาทีชอบคุยถึงเรื่องราวความสนิทสนมกับคนอื่นสไตล์ Celeb และบอกว่าการเล่น twitter นั้นเค้าไม่รู้ว่าทำให้ตั๋ว NokAir ขายดีขึ้นหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ร้านก๋วยเตี๋ยวของเค้าขายดีขึ้นเห็นได้ชัด ( ซึ่งอันนี้เป็นตัวรับรองเป็นอย่างดีว่า twitter นั้น support กิจการส่วนตัวแต่ยังไม่เกิดประโชยน์ยัดเจนต่อองค์กรมากนัก )

คนอื่นๆในวงสนทนาไม่ค่อยมีบทบาท ส่วน @Korndemocrat นั้นไม่ได้มาร่วมงาน ความจริง @booruball มาเพราะอยากเจอคุณกรณ์นะเนี่ย

ช่วงที่สอง จากความเห็น @booruball

เป็นช่วง เจ้าของวาวีกับทีม #mktwit โดยทุกคนที่เล่นมีจุดประสงค์กันหมด @iwhale ถูกเชิญขึ้นเวทีก็คุยสนุกและมีถูกถามเรื่อง ดราม่า ซึ่งพี่เอ๋อก็ตอบได้ดี คุณ @mktmag ก็คุยมีสาระดี ส่วนคนอื่นๆ @booruball จำไม่ได้ 😛

ใครได้อะไร จากงานนี้ ?

@suthichai และ Nation

@suthichai ในทัศนะของผม คุณสุทธิชัยน่าจะรู้ว่า twitter เป็นสิ่งที่คุกคามสื่อและผมจะเขียนโพสตัวอย่างเรื่องนี้ไว้ต่อไปครับ ดังนั้นในฐานะที่คุณสุทธิชัยอยู่ในสถานะที่ถือว่าไม่ได้เป็นนักข่าวกระแสหลักเหมือนเมื่อก่อน คุณสุทธิชัยจึงมองเห็นทะลุปรุโปร่งว่าจะต้องเข้าร่วมกับ”ศัตรู”โดยธรรมชาติของสื่อเพื่อหาทางรับมือกับมันให้ได้ซะก่อน ที่ผ่านมาถือว่า @suthichai พยายามผลักดันนักข่าวในสายของตนให้ใช้ twitter และในเว็บไซต์ nation ก็มีการ embed twitter นักข่าวไว้ด้วย ( ถึงแม้ผมจะยังไม่เห็นโอกาสที่ทั้งสองสื่อจะรวมกันได้สนิทตอนนี้ ) จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดงานครั้งนี้ ดังนั้น @suthichai จึงต้องการเป็นตัวตั้งตัวตีนั้นเองและก็ทำใด้สำเร็จระดับหนึ่ง ส่วน Nation นั้นผมไ่ม่แน่ใจว่าได้ประโยชน์หรือเปล่าเพราะ Branding อยู่ที่ @suthichai สำหรับงานแบบนี้

@suthichai เห็นความหวังของการผลักดันสื่อ mass media และ social media
@suthichai เห็นความหวังของการผลักดันสื่อ mass media และ social media

อย่างไรก็ตาม นักข่าวในสังกัด Nation นอกจาก @suthichai ( และนักข่าวคนอื่นๆ ในสังกัดอื่นๆ ) นั้นมีความเข้าใจ twitter “ต่ำ” มาก เป็นสาเหตุทำให้การพูดและการสื่อ ไม่ออกมาถูกหูคนใช้ twitter มากนัก อย่างที่ผม tweet ไปว่ามีนักข่าวบางคนพูดว่า “การรวมตัวของผู้ใช้และผู้ชื่นชอบเข้าชมเว็บไซต์ ทวิสสสสเตอร์” ( การออกเสียงก็ผิด แถม ทวิตเตอร์เป็น platform ) อย่างไรก็ตาม การขัดหูเป็นเรื่องปกติของ Geek เหมือน case ที่สาวก Apple ขัดหูกับ Marketing ยุคใหม่ของ Apple เช่นกันดังในโพส อวสาน Geek และเป็นที่มาของพาดหัวข่าวที่ขัดหูและเป็นประเด็นใน twitter วันจันทร์นี้อย่างมาก ผมเข้าใจว่า @suthichai อาจโยนให้ Copywriter นักข่าวเป็นคนเขียนเลยออกมาเป็นอย่างงี้ครับ

สุทธิชัย รวมพลคนทวิตครั้งแรกในโลก คลิกที่รูปเข้าดูข่าว
สุทธิชัย รวมพลคนทวิตครั้งแรกในโลก @molek สะอึกแน่ๆ 😛 คลิกที่รูปเข้าดูข่าว

ความเห็นอีกด้านของเพื่อนผู้ไม่ประสงค์ออกนามของผมคนหนึ่งบอกว่า @suthichai ต้องการชิงพื้นที่ twitter กับ @thaksinlive นั่นเอง ( เพราะถ้า @thaksinlive กลับมาได้ Nation จะลำบาก ) ทำให้ในงานแทนที่จะเชิญ celeb คนอื่นๆในวงการ twitter ตัวจริงหรือศิลปินมา กลับเชิญนักการเมืองพรรคประชาธิปปัตย์มาเพื่อผนึกกำลัง twitter แทน ( ส่วนคุณ @suranand ซึ่งแทบไม่มีบทบาทในวงสนทนานั้นให้มาเพื่อไม่ให้น่าเกลียดเกินไปนัก ) ซึ่งเมื่อผมได้ฟังอย่างนี้ทำให้รู้สึกว่า การทำให้ #wawee มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องนั้นไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นักนะครับ

เจ้าของวาวีใหญ่ และ เจ้าของวาวีซอยอารีย์

@suthichai นั้นมีทิศทางที่คิดว่า ร้านกาแฟวาวีเป็นที่สังสรรค์ของสังคม twitter มาตลอดจึงทำให้ติดต่อไปยังเจ้าของวาวีที่เชียงใหม่ครับ แต่จากการสัมภาษณ์จะเห็นว่าเจ้าของวาวีนั้นไม่สันทัดในเรื่อง Social Media เลยและไม่มีบทบาทในการพูดที่ชัดเจนเลย แต่ก็ได้ชื่อเสียงของร้านจากงานนี้แน่นอนครับ ส่วนหุ้นส่วนวาวีแฟรนส์ชายส์สาขาอารีย์หรือ @jitara นั้นมีความสนิทสนมกับพวกเรา #iHear เป็นอย่างดีมาตลอดและให้เกียรติพวกเรา โดยการ Provide เวทีให้พวกเราเล่นดนตรีและความใจกว้างของเค้าได้ส่งผลให้เกิดงานวันนี้ขึ้นมาได้ (หลังจาก #iHear ร่วมกับ @hongsyok จัดงาน Live ที่ #wawee มา 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ) ผมได้คุยกับพี่เค้าหลายครั้งและประทับใจความไร้กระบวนท่าของ @jitara มากครับ พี่เค้าบอกว่าที่วาวีมาถึงวันนี้ได้นั้นไม่ได้วางแผน Business อะไรเลยซักอย่าง อาศัยถูไถแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามาตลอดซึ่งจะได้บล็อกในเวลาต่อไป

ซึ่งชื่อเสียงของร้านที่เพิ่มขึ้นนั้นนอกจากตัวร้านที่เป็นเอกลักษณ์ พี่จิรัฎยืนยันว่ากระแสค่อยๆมาจาก #iHear โดยผมและเพื่อนๆในวงเริ่มใช้ #wawee เมื่อหลายเดือนก่อนและบอกต่อให้เพื่อนๆในวงใช้ต่อมา และต่อด้วยการ boost จากชาว twitter เสียงทรงพลังอย่าง @iWhale และการมาร้านของ @macroart @pawoot @mktmag @ripmilla ตามลำดับ และเข้าสู่ Mass เต็มรูปแบบหลังงาน @suthichai นี้ครับ ดังนั้นผมขอยืนยันว่าร้านกาแฟวาวี ไม่ได้ตั้งใจทำ Marketing ร้านใน Social Media เลย อย่างไรก็ตามหลังวันอาทิตย์ที่ผ่านมา #wawee นั้นเริ่มเข้าสู่โหมดที่ดังขึ้นจนเริ่มมีความเห็นในเชิง”ตรงข้าม”บ้างแล้วเช่นกัน อันนั้นเกิดของประเด็นการเมืองของคนไทยนั่นเอง ดังจะเล่าต่อด้านล่าง

วง #iHear

วง #iHear หลังจากผมและ @plajazz ไปทำธุระอย่างอื่นเมื่องานเสวนาเริ่มก็ทำให้น้ำหนักของวงในการโปรโมทตัวเองในงานหายไปเยอะ (จากความเห็น @booruball) ดังนั้นวงจึงไม่ได้ได้ประโยชน์ทางชื่อเสียงมากขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ครับ แต่มีจังหวะเล็กน้อยที่ @nuishow พูดถึงในช่วงแรก และ @booruball เล่าให้ฟังว่าหุ้นส่วน/เจ้าของวาวีสาขาซอยอารีย์ @jitara ได้ให้สัมภาษณ์ในช่วงที่สองว่า #wawee นั้นรวม tweeple ได้เพราะว่า #iHear กับกลุ่ม tweeple ที่มาร่วมแจมกันนั่นเองต่อจากนั้นได้โยนมาที่วง iHear ซึ่งขณะนั้นมีแค่ @ichattt กับ @ipoup2e ซึ่งยังไม่ถึงกับพูดได้ฉะฉานถึงที่มาที่ไปของ #iHear ที่มีต่อ #wawee ในเชิง marketing เท่าไหร่ ( tag #iHear นั้นเกิดหลัง #wawee โดยมีจุดเริ่มจากการที่ผมประกาศทำวงเป็น OpenSource Band )

อย่างไรก็ตาม ผมเองก็คาดไว้ว่าถึงอยู่ที่งาน ทางทีมงาน Nation ก็ไม่ได้ focus ที่วงแน่นอนเพราะว่าวงดนตรีนั้น จับต้องได้ยากและไม่มี Brand ชัดเหมือน Wawee ครับ รวมถึงคาดไว้ว่าตัวคุณ @suthichai นั้นไม่ได้มองถึงการอธิบายที่มาและคุณประโยชน์ในการรวมตัวของวงที่มีต่อ tweeple แน่นอนเช่นกันเพราะน่าจะเป็นภาพที่เล็กเกินไป ผมจึงตัดสินใจไม่ร่วมงานตลอดช่วงดังกล่าว (นอกจากนี้ยังกลัววงดนตรีจะไปทำให้คนที่จะคุยและเสวนากันรู้สึกหนวกหูอีกด้วย)

tweeple ชื่อดัง ที่เชิญมาพูดในงาน

มีประโยชน์แน่นอนครับ เพราะมีโอกาสได้ออกสื่อหลายอย่าง และได้พูดแสดงวิสัยทัศน์ ทำให้ Branding ของตนเองแข็งแรงขึ้น และถ้า twitter mass ขึ้นมา ผู้ที่มี followers เยอะโดดเด่นจะได้ประโยชน์ทีเดียวครับ

tweeple ทั่วไป ที่ชอบมาวาวี หรือเพิ่งมา

งานลักษณะนี้ถือว่า ได้ประโยชน์น้อยมาก (ในแง่การเจอผู้คนในสังคมและแรงบรรดาลใจ) ถึงไม่ได้ประโยชน์เลยครับ เพราะการพบปะให้เกิดประโยชน์สูงสุดของผู้เล่น twitter จริงจังทั่วไปนั้นต้องมางานที่ “สามารถร่วมพูดคุยกันทุกคนอย่างทั่วถึง” มากกว่างานที่ “มีจุดรวมความสนใจชัดเจนอยู่ที่กลุ่มเพียงกลุ่มเดียว” แถมในงานวันนี้ยังเกิดประเด็น “ไม่ดังไม่มีสิทธิ์พูด” ซึ่งริดรอนกำลังใจเข้าไปอีก ดังนั้นกิจกรรมที่มีประโยชน์ที่สุดก็คือ วาวีในช่วงเมื่อ 3 เดือนก่อนหน้านี้ที่ #iHear ยังไม่ได้บิ๊วท์คนดูมาก และคนดูได้มากินกาแฟนั่งคุยกันสบายๆนั่นเอง หรือไม่ก็เป็นกิจกรรมกินอาหารทั่วไปครับเช่น BeerCamp Pladibcamp CTWPhotocamp นอกนั้นก็เป็นพวก BarCamp ที่ทุกคนมีสิทธิพูดหรือเสวนานอกรอบกันตามอัธยาศัยแบบ WordCamp เป็นต้น

UIH และทีมงาน #Beenets

นำโดย @hongsyok งานนี้จัดเป็นการ Live ครั้งที่ 3 ของทีมพี่หงษ์ครับ โดยครั้งแรกผมเชิญ @hongsyok มาช่วยอัดเสียงลง Changkhui.com ของวง #iHear ที่วาวี แต่พี่หงษ์เห็นว่าน่าจะ Support Product ของ UIH ได้ด้วยเช่นกันจึงอาสาทำ Live ครั้งนี้และยังเป็นตัวกลางประสานงานของงาน Production กับ @simplywit และ @davedawcomm อีกด้วยครับ ดังนั้นสิ่งที่ได้น่าจะเป็นประสบการณ์ในการ Live Online และชื่อของ #beenets รวมทั้ง www.beenets.com.live ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การโปรโมทด้วย twitter นั้นแน่นอนว่าชื่อมักจะไปลงที่บุคคล หรือ @hongsyok มากกว่า UIH ด้วยนิดหน่อยเช่นกัน เพราะไม่ได้ตั้งใจโฆษณามากเกินไปนั่นเอง สำหรับตัวผมเองรู้สึกว่า งาน Live Production บน Internet นั้นยังได้ไม่คุ้มเหนื่อยครับ แต่ถือว่าเป็นการเปิดตัวที่ดี (ถ้าทำต่อไปต้องหาโมเดลที่คุ้มมากกว่านี้)

ความเห็นของผม กับการ Mass ที่ #wawee

แน่นอนครับว่า สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมได้เข้าใจชัดเจนถึงวงการการเมืองไทย วงการการสร้างกระแสของไทย วงการการต่อต้าน/หมั่นใส้ของไทย ได้ชัดเจนขึ้นมากทีเดียว ในครั้งแรกผมเองอดที่จะรู้สึกแบบเด็กๆเหมือนกันว่า ผมยึดติดกับการมีชื่อเสียงมากแค่ไหนกันและต้องการ “มีส่วนร่วมกับชื่อเสียง” ที่เราร่วมกันผลักดันมามากมายแค่ไหน ? ผมเข้าใจวาทะของพี่เต๋อที่กล่าวต่อวง ไมโคร ว่า “ทำไมเราร่วมทุกข์กันได้ แต่พอมีชื่อเสียงแล้วร่วมสุขกันไม่ได้” ได้ชัดเจน เพราะว่าการร่วมสร้างชื่อเสียงนั้น ทุกคนต่างคิดว่าตนเองเป็นส่วนสำคัญนั่นเอง(เราคิดถึงแต่ตนเอง) แต่พอตอนมีชื่อเสียงนั้น มันเป็นไปได้ยากเหลือเกินที่จะระบุชื่อผู้ร่วมผลักดันได้ทั้งหมด ดังนั้นการระบุชื่อจึงเหลือเพียงไม่กี่คนซึ่งการผลักดันด้วย twitter ก็ยังเข้าข่ายนี้ได้เช่นกันครับ และเมื่อบางสิ่งถึงจุด Mass และมีตัวแทนของความ Mass เข้ามากลุ่มที่เคยอยู่ก่อนหน้าก็จะหายไป มันเป็นเรื่องธรรมชาติของเมื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งดัง

ผมคิดว่าเรื่องนี้นี่เป็นอุปสรรคต่อ OpenSource เมืองไทยเช่นกัน อย่างไรก็ดีผู้ที่ก้าวข้ามไปได้ก็จะพ้นกรอบความคิดแบบเก่าครับ การก้าวข้ามการยึดติดกับกำแพงชื่อเสียงเป็นเรื่องที่ยากจริงๆ

สำหรับปฎิกิริยาต่อต้าน วงจรนี้จะอธิบายได้หมดว่าทำไมมูลนิธิต่างๆในไทยถึงไม่ทำงานร่วมกันและทะเลาะกัน ทำไมการสร้างกิจกรรมและการทำสิ่งที่ดีๆไม่สามารถไปทำร่วมกับคนอื่นได้ต้องต่างคนต่างทำ มูลนิธินั้นสร้างขึ้นเพื่อรวมพลังแต่สุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์จากชื่อเสียงมีไม่กี่คนนั่นเองครับ โดยส่วนตัวสำหรับ วาระ #wawee ผมคิดว่า @suthichai เข้าใจตรงจุดที่เกิดการ Contribute นี้เพียงบางส่วน คือไม่ถึงแก่นแท้ของการรวมพลังชาว twitter แต่ถึงเข้าใจก็ไม่สามารถอธิบายได้ในทางปฎิบัติเช่นกันครับ และยิ่งพาดหัวข่าวว่าตนเองเป็นผู้รวบรวมคนใช้ twitter ครั้งแรกยิ่งไปกันใหญ่

ประเด็นเรื่องความไม่เข้าหูของ ผู้ใช้ twitter เมื่อคนทั่วไปหรือนักข่าว ที่ไม่มีความเข้าใจ twitter มาพูดและอาจจะถึงกับ”แสร้งทำ”เป็นสนใจ twitter อันนี้เป็นเรื่องปกติเมื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งปรับตัวสู่ความเป็น mass แรกๆดังโพส โศกนาฏกรรม ของ Geek จุดจบสาวก และวันหนึ่งมันก็จะดีขึ้นครับ

ประเด็นอะไรที่เริ่มดัง วัดได้จากการที่เริ่มถูกด่า นั่นเป็นเพราะว่า ในระยะแรกที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งเริ่มดัง ผู้ที่ชื่นชอบซึ่งยังไม่จำนวนไม่มากก็จะศึกษาวัตถุประสงค์และมีความสนิทสนมกลมเกลียวกันดีครับ ทุกคนก็เลยไม่มีใครว่ากันมีแต่ส่งเสริม แต่พอเริ่มดัง ก็จะเริ่มถูกรู้จักโดยผู้ที่ไม่ได้ศึกษาวัตถุประสงค์ของสิ่งนั้นๆด้วย เริ่มมีการขัดผลประโยชด้วยความใหญ่ด้วย เริ่มมีคนที่อยากดังเพราะด่าสิ่งที่ดังไปแล้วด้วย และคนที่อยากร่วมดังด้วยการพยายามเข้าร่วมกลุ่มที่กำลังจะดัง (เช่นการ tweet ร่วมกระแส หรือสรรเสริญเยินยอ)ก็จะมีคุณภาพที่ตกลงเรื่อยๆเป็นเหตุให้ถูกโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามง่ายขึ้นด้วยครับ

timeline ของ wawee

@jitara และหุ้นส่วนต้องการเปิดแฟรนไชต์กาแฟวาวีซอยอารีย์ โดยใช้พื้นที่บ้านเก่าในซอยอารีย์ 1 ซึ่งจัดว่าอยู่ในทำเลที่ยังถึงกับไม่ดีมาก เพราะวันเสาร์อาทิตย์ออฟฟิศแถวนั้นปิดหมดและไม่ได้มองเห็นง่ายจากถนนใหญ่
V
@plajazz walkin มาขอจัด Solution เล่นดนตรีที่ร้านกาแฟ วาวีเมื่อ 2 ปีก่อน
V
@plajazz ดึง @ipattt มาร่วมเล่นดนตรีด้วย และคนและแฟนเพลงปกติของร้านที่ไม่ได้ใช้ twitter เริ่มเยอะในช่วงที่เล่นกับน้องแก้ว นักร้องเก่าซึ่งอยู่อังกฤษในปัจจุบัน มี @ipoup2e มาแจมบ้าง วงไปเล่นที่หน้าร้านเพื่อเรียกความสนใจคนที่เดินผ่านไปมา
V
@ipattt เดือน กค 52 เริ่มเล่น twitter จริงจัง และ @inattt @ichattt เข้าร่วมวงในขณะนั้นชื่อ VIVA Wawee หรือ iSchool Band หรือ Plajazz Band (แล้วแต่อารมณ์) , @ipattt อัพรูปลง facebook และ วีดีโอลง youtube พร้อมทั้ง Search google ว่า วาวีแล้วบล็อกติดอันดับต้นๆ แฟนคุณจิรัฎซึ่งอยู่ที่ออสเตรเลียเล่าให้ฟังว่าร้านดังไกลถึงออสเตรเลียผ่าน Social Media และมีคนที่นั่นตั้งใจจะบินมาดูงานในช่วงปีใหม่นี้ด้วย
V
@iChattt ตั้งชื่อวงว่า iHear Band
V
คนเริ่มเยอะที่ วาวี @ipattt เริ่มใช้ tag #wawee และเพื่อนๆในวงเริ่มเล่น twitter จริงจังมากขึ้นรวมทั้งคนในวงเริ่มเขียนบล็อก จะสังเกตได้ว่า #wawee เป็น tag ที่พิมพ์ง่ายที่สุดในจำนวน tag ทั้งหลายโดยเฉพาะเมื่อใช้ มือถือในการ tweet
V
เริ่มมีสมาชิกอย่าง @sexdrum ลงทุนยกกลองมาแจม @duke113 ร้องเพลงเก่าๆ ,เซิร์ท google วาวี เจอบล็อก iPattt มีรูปกิจกรรมและวีดีโอมากมายของ วาวี ลง facebook ของ iPattt , เริ่มใช้เครื่องเสียงอย่างดี อย่าง Bose L1
V
ร้านวาวี พยายามปรับปรุงร้านอย่างต่อเนื่องให้รับกับจำนวนแขกที่เพิ่มขึ้น ตัวอย่างความเอาใจใส่เช่น ด้านล่าง 4 มุมของขาเก้าอี้ไม้ทุกตัวมีการเสริมยางเพื่อให้นัั่งสบายไม่กระโดกกระเดกและไม่มีเสียงรบกวนเวลาเลื่อนเก้าอี้ การปรับปรุงห้องชั้นบน เสริมพนักงานที่มีบุคลิกที่ดี (ต่างจากวาวีสาขาอื่นที่ผมเคยไปกินมาจริงๆ)ฯลฯ
V
@ipattt ประกาศว่าวง iHear Band เป็น Open Source Band ในงาน CC Salon และเริ่มหาสมาชิกจากการแจม เริ่มใช้ #iHear
V
@iwhale มาเป็นกำลังสำคัญของ hashtag #wawee ,@imenn เป็นโฆษกให้ในช่วงแรกๆและเริ่มให้ tweet ขอเพลงโดยใช้ #wawee สมาชิก iHear เพิ่มขึ้นเยอะมากทั้ง @feelinglomo @ipoup2e @availalways @allmybest @Meawba @iWhale @tongkatsu @dekunderkover , มีมือ event อย่าง @molek มาด้วย
V
ใน event ร่วมกินกาแฟ @meawba รวบรวมรายชื่อคนที่มาวาวีในกลุ่มแรกๆทุกครั้งลงบนกระดาษ ทำให้เกิดการพูดคุยและ follow กันใน twitter หลังจากการไปพบกันที่วาวี , @macroart , @pawoot @1500miles @mktmag เริ่มมาวาวี เกิดเป็นกลุ่ม tweeple กลุ่มแรกๆ ( ซึ่งทำให้แขกเก่าๆเริ่มโดนเบียดบังหายไปเช่นกัน 😛 ) , @jitara ตัดสินใจแบ่งเบาภาระ iHear ด้วยการซื้อ Bose L1 ต่อจาก @iPattt ด้วยเงินสด 70,000 บาท
V
iHear เริ่มมีงานเยอะ ความจริงงานที่ได้เงินเป็นงานจากบล็อก iPattt ในส่วนของ รับเล่นดนตรีงานแต่งงานและบล็อกของ Plajazz.com แต่งานที่ได้มาจาก twitter มักเป็นงานฟรีซึ่งตรงกับ policy ของวงวางไว้ , วงได้ FOLK ออกเป็น #eHear #rHear #uHear #MoreHear เพื่อกระจายกันรับงานแบบ OpenSource ,หัวหน้าทีมในการนำวงกระจายออกอีเว้นท์ในขณะนี้คือ @plajazz ,@ipoup2e, @ipattt
V
Nation สัมภาษณ์ @ipattt เกี่ยวกับ วาวีเพราะ @suthichai นึกว่า @ipattt เป็นทีม Marketing ให้วาวี
V
@ipattt ชวน @hongsyok @simplywit @davedawcomm มาทำ Live ให้ iHear ที่ Wawee , @hongsyok เดินสายเพื่อนำ internet เข้า wawee และเป็นกำลังสำคัญ , @jitara อนุญาติให้ทำกิจกรรมได้ตามสะดวก, มีร้านขายอุปกรณ์ดนตรีให้ความร่วมมือ เช่น Music2home และ Proplugin, ได้รับคำแนะนำและอุปกรณ์จาก Tula ซึ่งเป็น sound engineer ชั้นนำของไทย
V
Live ครั้งที่ 2 @hongsyok ชวนทีม @ripmilla @nytonkla @hohoteam มาช่วยด้าน VDO และมี @fordantitrust อีกด้วย ,ทางวาวีติดสปอตไลท์และเตรียม Projector ให้สำหรับ iHear
V
@suthichai dm ถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ขอจัดงาน คุยสบายสไตล์ tweeple ที่วาวี , @hongsyok เป็นแม่งาน Production และ @jitara ดูแลด้านสถานที่อย่างดี

ปล. ผมเองก็มีความเป็นเด็กอยากได้คำชมอยู่ พี่หงษ์ไม่รู้รู้ใจหรือเปล่าเลย tweet นั้นนี้ขึ้นมาและ @suthichai RT ด้วย 😛 ขอบคุณมากครับเพ่ !

พี่หงษ์ @hongsyok tweet และ @suthichai RT
พี่หงษ์ @hongsyok tweet และ @suthichai RT

Update @plajazz บล็อกประวัติศาสตร์ไว้อย่างละเอียดที่นี่ครับ กำเนิด วาวี #wawee และวง #iHear