คำเตือน ประเทศไทยน่าจะอยู่ในสภาพตกต่ำที่สุด เรารู้สึกตัวกันหรือไม่ ?

วันก่อนหลังประชุมกับลูกค้าธนาคารเสร็จ ( ลูกค้าอยู่ในสภาพกำลังสั่งให้เราทำงานในขณะที่ขายโปรเจ็คที่เรากำลังทำ ทำให้ Requirement ไม่ชัดเจน ประกอบกับไทเกอร์ไอเดียยังขาด System Analyze ประกบลูกค้าใหญ่รายนี้อยู่ ) เราก็มาคุยกัน และประเด็นที่น่าสนใจที่ว่า คนหลายๆคนที่กำลังอยู่ในจุดสูงของสังคมไทย คือได้เงินโดยไม่ต้องทำงานนั้น เชื่อว่าในไม่ช้าระบบทุกอย่างจะพังทลายและต้องรีเซ็ทใหม่หมด คุณจ๋ง ได้เตือนให้ผมรู้สึกตัวเพราะเห็นว่าผมอยู่ในกลไกที่จะเป็นแบบนั้นได้และให้เตรียมพร้อมไว้ด้วยครับ

ประเทศไทยน่าจะอยู่ในสภาพตกต่ำที่สุด เรารู้สึกตัวกันหรือไม่ ?

สมัยก่อนน่าจะจำได้ว่าไทยเคยอยากจะเป็นเสือตัวที่ 5 เราเห็นว่าเรายังพอตามทันญี่ปุ่น เราอยู่ระดับเดียวกับเกาหลีสิงคโปร์ เราเหนือกว่ามาเลเซียหลายด้าน และเราน่าจะก้าวขึ้นอยู่ระดับเดียวกับประเทศชั้นนำระดับโลกได้ เราไม่เห็นประเทศเวียดนาม ลาว และเขมร อยู่ในสายตา

ตอนนี้เป็นอย่างไรแล้ว ญี่ปุ่นและสิงคโปร์เรารู้สึกว่าเค้าเหนือกว่าเราไปมากคนละชั้น เด็กๆรุ่นใหม่เทิดทูนเกาหลียิ่งกว่าสิ่งอื่นใด (Sumsung สมัยก่อนอยู่ระดับเดียวกับธานินทร์แต่ตอนนี้เป็นแบรนด์ระดับโลก) มาเลย์นำเราไปแล้วและเวียดนามก็กำลังจะตามไป เราหันมาทะเลาะกับเขมรทั้งๆที่แต่ก่อนแทบไม่เคยเห็นประเทศนี้เป็นคู่แข่งเลย เรามีนิสัยที่ชอบเอาแต่ดูถูกเพื่อนบ้านที่เจริญน้อยกว่าเรามาเรื่อยจนเพื่อนบ้านเหล่านั้นลดจำนวนลงมาเรื่อยๆและตอนนี้ลาวมี 3G ใช้มากว่า 6 เดือนแล้ว องค์ความรู้ของลาวกำลังจะก้าวกระโดดและในวันหนึ่งเราก็เริ่มพูดได้ไม่เต็มปากแล้วกับการใช้คำประกอบประโยคที่ดูถูกเพื่อนบ้านของเรามาตลอด ที่ตลกคือติมอร์ตะวันออกอาจจะต้องมาเทียบกับเราแทน

การท่องเที่ยวซึ่งเป็นจุดแข็งของเราถูกทำลายลงไปหมดตั้งแต่สมัยสนามบินโดนปิด ศิลปหัตถกรรมยังคงคุณค่าในตลาดโลกจริงหรือตลาดได้เปลี่ยนไปเป็นสินค้าแนวความคิด? สินค้าเกษตรและใช้แรงงานโดนตีย่อยยับจากประเทศจีน ความน่ากลัวคือจีนกำลังส่งเสริมแคมเปญ “Made in China” เพราะพร้อมแล้วที่จะยกระดับคุณภาพสินค้าตนเองให้สูงขึ้น ตลาด IT อินเดียกำลังคุกคามเราอยู่และอสังหาริมทรัพย์สิงคโปร์รุกคืบไปเท่าใดแล้วในพื้นที่ประเทศไทย คุณเคยรู้หรือไม่ ประเทศไทยมีจุดแข็งอะไรบ้าง ??

VDO campaign “Made in China” ของจีน

ผมเองเคยคิดว่าจุดแข็งของเราต่อ Value Chain ของโลกน่าจะเป็นตลาดการดีไซน์ เพราะสภาพแวดล้อมของเราทำให้คนอารมณ์ลื่นไหลและอยู่ได้ไม่อดตายในน้ำมีปลาในนามีข้าว 😛 และผมเคยอยู่ในโรงงานผลิตโคมไฟรถยนต์อย่าง Stanley ซึ่งเป็นผู้ดีไซน์ไฟรถยนต์ชั้นนำของโลกหลายยี่ห้อมากและทำใด้สวยซะด้วย ต่อด้วยทำบริษัท Agency ที่ลูกค้าต่างชาติต้องบินมาให้ช่วยออกแบบ และบริษัททำเว็บอย่าง TiGERiDEA ที่ร่วมดีไซน์กับโครงการจาก Silicon Valley แต่ตอนนี้การดีไซน์ซึ่งเป็นสื่อดิจิตอลเริ่มถูกทำให้ flood โดยตลาดโลก online ทำให้ไม่แน่ใจว่าไทยถ้ามุ่งจุดนี้จะต้องวางกลยุทธ์ใดบ้าง ซึ่งถ้ามีคนเห็นความสำคัญอาจจะต้องมา Discuss กันต่อ

พอสงสัยเมื่อวานผมเลยถามไปใน twitter ว่า”ประเทศไทยมีจุดแข็งอะไรบ้างนะ”

ได้คำตอบมาดังนี้ครับ


มีจิ ก็คนไทยมีในหลวง และรักในหลวง #WeLoveKing


น่าจะเป็นตลกคาเฟ่


รับวัฒนธรรมคนอื่นได้ดี


จุดแข็งของประเทศไทย คือ “ไม่มีจุดแข็ง ไม่มีเอกลักษณ์” ดังนั้นเลยต้อง “สร้างจุดแข็ง สร้างเอกลักษณ์” (ซึ่งมันก็จะสร้างไม่ได้)


ทำเลที่ตั้ง+ผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ ไง 😉


RT @musiczaa มีจิ ก็คนไทยมีในหลวง และรักในหลวง #WeLoveKing


beloved king of king is more than anything else. 😀


RT @phz beloved king of king is more than anything else. 😀

ระบบอุปถัมภ์ต่างๆที่ไล่กลไกของอำนาจจากชั้นบนลงมาซึ่งทำให้คนที่ไม่ทำงานสามารถหาเงินได้เรื่อยๆนั้นจะอยู่ได้นานแค่ไหน และที่สำคัญไหนๆรัฐบาลก็ปลุกกระแสชาตินิยมชัวคราวขึ้นมาแล้ว ผมว่าเราจะต้องมีความคิดชาตินิยมให้ถูกทางมากกว่านี้เพราะการรักชาติในปัจจุบันนั้นไม่ใช่เพียงการใช้แต่ของที่ผลิตในประเทศ(ซึ่งรณรงค์อย่างไรก็ดันไม่ได้ผล) หรือการรวมตัวด่าประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้นอีกต่อไป แต่หมายถึงกลยุทธในการร่วมมือร่วมใจกันของกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านกับเราต่างหากเพราะระบบเศรษฐกิจได้เปลี่ยนไปนานแล้ว การที่มีต่างชาติมาลงทุนในไทยจำนวนมากนั้นเป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกันจึงต้องดู trade ทั้งหมดอย่างกว้างๆ

ตัวอย่างการมองธุรกิจท่องเที่ยวเช่นเขาพระวิหารนั้นส่วนตัวผมคิดว่ามันไม่ได้สำคัญว่าอยู่ในประเทศใดอีกต่อไป แต่ประเทศใดต่างหากที่จะสามารถหารายได้จากองค์รวมของมันได้ ตัวอย่างคือไทยนั้นมีความพร้อมต่อ Channal ในการต่อยอดการท่องเที่ยวสู่ภูมิภาคประเทศเพื่อนบ้านสูง ถ้าทำแคมเปญท่องเที่ยวเขาพระวิหารโดยให้นักท่องเที่ยวต้องมาลงที่ไทยก่อนไปเขาพระวิหารแน่นอนว่าเราสามารถทำเงินได้เยอะกว่า เป็นต้น

ถึงแม้ว่าโดยส่วนตัวผมและคุณเม่น จะมองว่าจ๋งบางครั้งก็อาจมองโลกในแง่ร้ายบ้าง แต่การมองโลกของเค้าทำให้พวกเราต้องกลับมาคิดอะไรกันหลายอย่างเช่นกันครับ โดยเฉพาะผมซึ่งมองโลกในแง่บวก (ถ้าอารมณ์ดีงานไม่เยอะ) ซะเป็นส่วนใหญ่

ประเด็นการถกเถียงที่เราน่าจะให้ความสนใจกันในระยะนี้คือเรื่องของการคอรัปชั่นนะครับ อยากให้สังคมได้มีการถกเถียงเรื่องนี้กันมากๆ ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะเรื่องดังกล่าวนั้นสามารถมองได้หลายมิติมาก และส่วนใหญ่ ผู้ที่ด่ามักไม่เข้าใจและไม่มีโอกาสทำหรือไม่มีแม้แต่ความสามารถในการทำงาน ส่วนผู้ที่มีความสามารถพร้อมและทำนั้นปากว่าตาขยิบแทบทุกคน

?คอร์รััปชันเป็นทางลัดหรือวิถีทางของคนที่ไม่อยากทำงาน? จากบล็อกจ๋ง
ความไร้ประสิทธิภาพ กับ การโกงกิน โพสเก่าของผม
คุยกับพี่เล้ง EMFEC ไม่โฟกัสรับงานราชการแล้ว